PLUS ดีดบวก 3% มั่นใจครึ่งหลังฟื้น ลุยออกสินค้าใหม่-ผลิตขวด PET หนุน

PLUS ดีดบวก 3% มั่นใจครึ่งหลังปี 66 ฟื้น ลุยออกสินค้าใหม่-รับรู้กำลังการผลิตใหม่โครงการ Pet Aseptic และแนวโน้มส่งออกยังแข็งแกร่งต่อเนื่อง


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (18 ก.ย.66) ราคาหุ้น บริษัท โรแยล พลัส จำกัด (มหาชน) หรือ PLUS ล่าสุด ณ เวลา 10.22 น. อยู่ที่ระดับ 8.10 บาท บวก 2.50 บาท หรือ2.53% สูงสุดที่ระดับ 8.20 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 8.00 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 35.81 ล้านบาท

โดยก่อนหน้านี้นายพลแสง แซ่เบ๊ กรรมการผู้อำนวยการ PLUS เปิดเผยว่า แนวโน้มธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2566 บริษัทคาดว่าจะเห็นการฟื้นตัวที่ดีขึ้น จากการรับรู้กำลังการผลิตใหม่จากโครงการ Pet Aseptic (สายการผลิตขวดพลาสติก PET) และแนวโน้มการส่งออกคาดว่ายังแข็งแกร่งต่อเนื่อง ส่วนแนวโน้มราคาต้นทุนวัตถุดิบมองว่าไม่ได้แตกต่างจากปีที่ผ่านมา

นอกจากนี้ในช่วงไตรมาส 3/2566 บริษัทมีแผนออกผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่อกระตุ้นยอดขายด้วย ซึ่งเป็นปัจจัยบวกให้ผลประกอบการของบริษัทในช่วงครึ่งปีหลังฟื้นตัว อีกทั้งมีปัจจัยหนุนจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง ประกอบกับแผนการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายของลูกค้าในสหรัฐฯ มีทิศทางที่ชัดเจนขึ้นส่งผลให้คำสั่งซื้อเข้ามาเพิ่มขึ้นในช่วงที่เหลือของปีนี้

“บริษัทจะเริ่มรับรู้รายได้จากกำลังการผลิตใหม่จากโครงการ Pet Aseptic ล็อตแรกภายในไตรมาส 3/2566 โดยปัจจุบันมีคำสั่งซื้อของลูกค้ารองรับกำลังการผลิตในสายการผลิตขวด PET ไว้บางส่วนแล้ว จะหนุนรายได้ให้เติบโตและต้นทุนทรงตัว” นายพลแสง กล่าว

สำหรับผลประกอบการในงวดไตรมาส 2/2566 บริษัทมีกําไรสุทธิ 61.6 ล้านบาท ลดลง 15.7 ล้านบาท หรือคิดเป็นลดลง 20.3% จากงวดเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นอัตราส่วนกําไรสุทธิ 14.4% ของรายได้รวม และมีรายได้รวม 428.1 ล้านบาท ลดลง 15.1 ล้านบาท หรือคิดเป็นลดลง 3.4% จากงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องมาจากลูกค้าทวีปอเมริกาอยู่ระหว่างการเจรจาเงื่อนไขการขยายช่องทางการจัดจําหน่าย ลูกค้าจึงมีการชะลอการนําเข้าสินค้า จึงทําให้แผนการขายไปทวีปอเมริกายังไม่เป็นไปตามเป้าหมาย

ส่วนการขายสินค้าในภูมิภาคอื่น ๆ ช่วงไตรมาสที่ 2 ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องตามแผนกลยุทธ์การขยายฐานลูกค้าทางการตลาด โดยเฉพาะทวีปยุโรปมีการเติบโตสูงถึง 245.6%, ทวีปออสเตรเลียเติบโต 162.1%, ตะวันออกกลางโต 39.4%, ทวีปเอเชียเติบโต 37.2% และทวีปแอฟริกาเติบโต 26.4% ทําให้รายได้จากการขายสินค้าของบริษัทเพิ่มขึ้น 179.4 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 74.4 จากไตรมาสก่อนหน้า

Back to top button