PRTR ปิดเช้าบวก 3% โบรกแนะ “ซื้อ” ชูเป้า 9.50 บาท ชี้ฤดูจ่าย “โบนัส” ดันรายได้ปีนี้โต
PRTR ปิดเช้าบวก 3% เผยไตรมาส 4/66 ลุยต่อยอด ธุรกิจแพลตฟอร์มหางานออนไลน์-ให้บริการซอฟต์แวร์บริหารจัดการบุคลากร-จัดหาคนไปทำงานต่างประเทศ ตั้งเป้ารายได้ปี 66 โต 15% โบรกแนะซื้อราคาเป้าหมาย 9.50 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย.66) ราคาหุ้น บริษัท พีอาร์ทีอาร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ PRTR ปิดตลาดภาคเช้าที่ระดับ 7.65 บาท บวก 0.30 บาท หรือ 4.08% สูงสุดที่ระดับ 7.65 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 7.35 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 6.94 ล้านบาท
บริษัทหลักทรัพย์ ลิเบอเรเตอร์ จํากัด ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” PRTR ราคาพื้นฐานที่ 9.50 บาท/หุ้น ซึ่งมองว่าในไตรมาส 4/66 จะเป็นฤดูกาลจ่ายโบนัส ดังนั้นโมเดลแบบ cost-plus จะได้ประโยชน์จากจังหวะนี้เช่นกัน
โดยในไตรมาส 4/66 จะเป็นซีซั่นของการจัดกิจกรรมการตลาด ออกงานแสดงสินค้า และการเปิดตัวสินค้าใหม่ ทำให้ยิ่งมีความต้องการจัดจ้างพนักงานขายสูงขึ้น สำหรับนโยบายขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ ไม่กระทบ PRTR เนื่องจากบริษัทบริหารจัดการพนักงานในรูปแบบ Cost Plus ทำให้ PRTR ได้อานิสงส์จากการปรับขึ้นค่าแรงที่สูงขึ้น
อย่างไรก็ดี PRTR ได้ขยาย ธุรกิจในการให้บริการผ่านแพลตฟอร์มหางานออนไลน์ (Job Platform) ภายใต้ บริษัท จัดหางาน เน็กซ์มูฟ แพลตฟอร์ม จำกัด หรือ NEXMOVE และให้บริการฝึกอบรมแบบออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มและออฟไลน์ (Integrated Learning Services) โดยผู้สมัครสามารถเรียนคอร์สออนไลน์ผ่านทางเว็บไซต์ (Website) ของ BLACKSMITH ได้ทุกที่ทุกเวลา เสริมทัพการให้บริการลูกค้า เพื่อสร้าง Ecosystem ที่ครบวงจรยิ่งขึ้น
พร้อมกับเดินหน้าต่อยอดไปยัง 2 ธุรกิจใหม่ ธุรกิจให้บริการซอฟต์แวร์ด้านการบริหารจัดการบุคลากร (Human capital management software) ภายใต้ บริษัท พินโน โซลูชั่นส์ จำกัด หรือ PINNO ซึ่งเริ่มเปิดตัวและมีรายได้ในไตรมาสที่ 2 ที่ผ่านมา สนับสนุนภาพรวมธุรกิจในครึ่งปีหลังมีฐานรายได้ใหม่เข้ามาสนับสนุนต่อเนื่อง รวมทั้ง บริษัทใหม่ PRTR Global เพื่อเริ่ม ธุรกิจจัดหาคนไปทำงานต่างประเทศ โดยตั้งเป้าเริ่มดำเนินธุรกิจในไตรมาสที่ 4/66 ตอกย้ำการเดินหน้าขยายตลาด ย้ำผู้นำ HR Solution ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ทั้งนี้บริษัทฯ นำเงินที่ได้จาก การระดมทุน (IPO) ในช่วงมีนาคมที่ผ่านมา ใช้จ่ายคืนหนี้เรียบร้อยแล้ว สนับสนุนต้นทุนการเงินต่ำลง และยังมีเงินทุนหมุนเวียน (Working Capital) ที่พร้อมสำหรับการขยายธุรกิจ และมองหาโอกาสในการทำดีล M&A โดยตั้งเป้าลงทุนในบริษัทที่ทำธุรกิจ Outsource เพื่อสร้างพลัง Synergy และการเติบโตแบบ Inorganic Growth สำหรับปี 66 คาดรายได้เติบโต 10-15% จากปีก่อน