ICHI บวก 3% โบรกชี้ Q3 กำไรแตะ 273 ล้าน นิวไฮรอบ 8 ปี เคาะเป้า 19 บาท
ICHI บวก 3% โบรกคาดกำไรสุทธิไตรมาส 3/66 จะทำนิวไฮในรอบ 8 ปี อยู่ที่ 273 ล้านบาท พร้อมปรับเพิ่มคำแนะนำเป็น “ซื้อ” จากถือ ราคาเป้าหมาย 19 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (21 ก.ย. 66) ราคาหุ้น บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ICHI ล่าสุด ณ เวลา 10:22 น. อยู่ที่ระดับ 16.30 บาท บวก 0.40 บาท หรือ 2.52% สูงสุดที่ระดับ 16.40 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 15.90 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 40.86 ล้านบาท
บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) ระบุว่า แนะนำ “ซื้อ” ICHI ราคาเป้าหมาย 18 บาท มีมุมมองเชิงบวกต่อภาพรวมผลประกอบการครึ่งปีหลัง 66 หนุนจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งต่อชาพร้อมดื่ม และคาดว่าอัตราการใช้กำลังการผลิตจะเพิ่มเป็น 70% ในครึ่งปีหลัง 66 จาก 62% ในครึ่งปีแรก 65 ขณะที่รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 2/66 อยู่ที่ 256 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 68% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 15% จากไตรมาสก่อน สูงสุดในรอบ 7 ปี หนุนจากยอดขายชาเขียวที่โตดี 24% สูงกว่าการเติบโตของตลาดชาเขียวทั้งหมดที่ 21% 2.ยอดขายสินค้าอื่นนอกจากชาเขียวที่โตเท่าตัว
ด้าน บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ระบุว่า โดยคาดกำไรสุทธิไตรมาส 3/66 จะแตะระดับสูงสุดในรอบ 8 ปี คาดว่ากำไรสุทธิไตรมาส 3/66 ของ ICHI จะแตะระดับสูงสุดในรอบ 8 ปี อยู่ที่ 273 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.6% จากไตรมาสก่อน, และเพิ่มขึ้น 42% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวของปีก่อน
สวนแนวโน้มตามฤดูกาลโดยมีเหตุผลสำคัญประกอบด้วย 1) ไตรมาส 3/66 เป็นฤดูฝนแต่มีสภาพอากาศร้อนกว่าปกติ 2) พฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภค 3) อัตราการใช้กาลังการผลิตที่คาดว่าจะอยู่ในระดับสูงถึง 73% เพิ่มขึ้นจาก 71% ในไตรมาส 2/66 และ 4) ต้นทุนบรรจุภัณฑ์ที่ทรงตัว ปัจจัยบวกทั้งหมดน่าจะช่วยชดเชยรายได้จาก Tansansu และธุรกิจรับจ้างผลิตที่ต่ำกว่าคาด
ขณะเดียวกันในรายละเอียดฝ่ายวิจัยคาดว่ารายได้ในไตรมาส 3/66 จะอยู่ที่ 2.06 พันล้านบาท (เพิ่มขึ้น 2% จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 24% เมื่อเทียบกับช่วงปีก่อน) สูงสุดที่ในรอบ 10 ปีจากผลิตภัณฑ์ชาเชียวพร้อมดื่มในปัจจุบันโดยมีน้ำผึ้งมะนาวเป็นรสชาติที่ขายดีที่สุด นอกจากนี้ชาเขียวรสดั้งเดิมขนาด 500 มล. ยังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในปีนี้ซึ่งทาให้เราคิดว่าพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไป คาดว่าสัดส่วนค่าใช้จ่ายการขายและบริหารต่อยอดขายจะลดลงเล็กน้อยเหลือ 7.2% ในไตรมาส 3/66 จาก 7.8% ในไตรมาส 2/66
นอกจากนี้ส่วนแบ่งกำไรของกิจการร่วมค้าในอินโดนีเซียยังน่าจะฟื้นตัวเป็น 5 ล้านบาท (เทียบกับ 1 ล้านบาท ในไตรมาส 2/66) แต่ยังต่ำกว่าที่เคยให้ส่วนแบ่งกำไร 21 ล้านบาท ในไตรมาส 3/65 อยู่มาก หมายเหตุกิจการร่วมค้าดังกล่าวกาลังปรับกลยุทธ์ทางการตลาดในตลาดอินโดนีเซีย
ขณะเดียวกันฝ่ายวิจัยมีมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับพฤติกรรมของลูกค้าที่เปลี่ยนไปซึ่งน่าจะช่วยหนุนรายได้จากการขายชาเชียวพร้อมดื่มได้อย่างต่อเนื่องในไตรมาส 4/66 จนถึงปี 2567 โดยคิดว่ารายได้ดังกล่าวอาจช่วยชดเชยรายได้จาก Tansansu และธุรกิจรับจ้างผลิตที่พลาดเป้าได้ ด้วยเหตุดังกล่าวจึงปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 2566-2567 ขึ้น 22.7% และ 19.6% เป็นโต 55.7% เมื่อเทียบกับช่วงปีก่อน และ 7.3% เมื่อเทียบกับช่วงปีก่อน ตามลำดับในขณะที่ ICHI วางแผนจ้างผลิต 6% ของตัวเลขการผลิตในไตรมาส 1/67 เนื่องจากกาลังการผลิตเต็มอยู่ในปัจจุบัน บริษัทฯ วางแผนเพิ่มกาลังการผลิต 13% เป็น 1,700 ล้านขวดภายในไตรมาส 4/67 ในภาพรวมคาดว่ากำไรสุทธิจะโตเมื่อเทียบกับช่วงปีก่อน ในอีก 3 ไตรมาสข้างหน้าไตรมาส 3/66- ถึงไตรมาส 1/67 เป็นอย่างน้อย
ดังนั้นปรับใช้ราคาเป้าหมายปี 2567 ที่ 19 บาท ปัจจุบันประเมินมูลค่า ICHI ไว้ที่ 23 เท่า ของค่า P/E ปี 67 ใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ย 5 ปี เทียบกับ 25 เท่า ของค่า P/E ก่อนหน้า (1.0SD เหนือค่าเฉลี่ย 5 ปี) ราคาเป้าหมายใหม่มี Upside 18.8% เพราะฉะนั้นจึงปรับเพิ่มคำแนะนำเป็น “ซื้อ” จากถือ