AOT เปิดอาคาร SAT-1 รับผู้โดยสารพุ่ง 60 ล้านคน/ปี
AOT เตรียมเปิดใช้งานอาคาร SAT-1 เพิ่มศักยภาพสุวรรณภูมิ รองรับคนใช้บริการเพิ่มได้อีก 15 ล้านคนต่อปี
วันที่ 25 ก.ย. 66 นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย (จำกัด) มหาชน หรือ AOT กล่าวว่า ขณะนี้อาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 หรือ SAT-1 ในสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ มีความพร้อมให้บริการแล้ว 100% โดยคาดว่าจะช่วยเพิ่มพื้นที่รองรับผู้โดยสารจากอาคารหลักได้ ประมาณ 40% ซึ่งในวันที่ 28 ก.ย. 2566 จะเปิดให้บริการแบบไม่เป็นทางการ Soft Opening และจะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการภายในปีนี้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารจาก 45 ล้านคนต่อปี เป็น 60 ล้านคนต่อปีต่อไป
อย่างไรก็ดี หลังจากรัฐบาลเปิดมาตรการวีซ่าฟรีให้กับนักท่องเที่ยวจีนและคาซัคสถาน คาดว่าจะทำให้นักท่องเที่ยวจีนเข้ามาเพิ่มเกือบเท่าตัว โดยในเดือน ส.ค. -ก.ย. มีจำนวนผู้โดยสารจีน 3.5 แสนคน/เดือน แต่ในเดือน ต.ค.คาดว่าจะเข้ามา 6.2 แสนคน/เดือน ส่วนสายการบินจีนเข้ามา 100-200 เที่ยวบิน/เดือน ในส.ค.-ก.ย. แต่ในเดือนต.ค.เพิ่มเป็น 300 เที่ยวบิน/เดือน
นอกจากนี้ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ยังได้เปิดใช้รันเวย์ 3 รองรับเที่ยวบินเพิ่มขึ้นและ อาคาร SAT-1 ที่สามารถรองรับผู้โดยสารอีก 15 ล้านคน/ปี เป็น 60 ล้านคน/ปี โดยปัจจุบันมีประมาณ 10 สายการบินที่จะเข้าใช้บริการอาคาร SAT-1 ได้แก่ สายการบินเอทิฮัด สายการบินอิหร่าน สายการบินอิมิเรตส์ สายการบินกาตาร์ สายการบินออลนิปปอน ส่วน สายการบินไทย และอีก 4-5 สายการบินกำลังเจรจากันอยู่ อย่างไรก็ดี AOT กำลังพิจารณาให้ส่วนลดกับสายการบิน ที่จะมาเช่าพื้นที่ในอาคาร SAT-1 ที่ตั้งออฟฟิศ , การใช้สะพานเทียบเครื่องบิน ค่าจอดเครื่องบินด้วย
นายกีรติ ยังกล่าวว่า ในส่วนพื้นที่เชิงพาณิชย์ อย่างดิวตี้ฟรี ที่คิงเพาเวอร์ได้สัมปทานก็ได้เปิดใน SAT1 ด้วย โดยในงวดปี 66 AOT ยังมีรายได้จากการให้สัมปทานกับคิงเพาเวอร์ที่กลับมาใช้สัญญาปกติ เริ่ม 1 เม.ย.66 จากที่สิ้นสุดให้ความช่วยเหลือเมื่อสิ้น มี.ค.66 โดยนอกจากส่วนแบ่งรายได้ ก็จะมีเพิ่มในส่วนรายได้ขั้นต่ำ (Minimum guarantee) ต่อคน
นายกีรติ กล่าวว่า ขณะนี้อาคาร SAT-1 มีระบบลำเลียงกระเป๋าสัมภาระ ( ICS : Individual Carrier System ) เฉพาะขาออก ส่วนระบบลำเลียงกระเป๋าสัมภาระขาเข้า อยู่ระหว่างออกแบบ และจัดทำทีโออาร์ งบประมาณก่อสร้าง 3,700 ล้านบาท โดยคาดว่าจะตั้งงบประมาณปี 67 ใช้เวลาก่อสร้าง 2 ปี โดยปัจจุบันจะใช้ รถลำเลียงกระเป๋าขาเข้าซึ่งไม่พบปัญหาอุปสรรคในการให้บริการ
นายกีรติ กล่าวว่า บริษัทยังเดินหน้าดำเนินการส่วนต่อขยายด้านตะวันออกท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มูลค่าโครงการ 8-9 พันล้านบาท ที่จะเสนอ ครม.เพื่อรับทราบ ซึ่งก่อนหน้านี้ ครม.ได้อนุมัติวงเงินลงทุนไว้แล้ว และคาดว่าต้นปี 67 จะเปิดประมูลได้ โดยอยู่ระหว้างให้ที่ปรึกษาปรับแบบตามความต้องการใช้งาน
ด้าน นายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กล่าวว่า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้ผ่านการทดลองปฏิบัติการเต็มรูปแบบอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (SAT-1 Full – Scale Trial Operations) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งได้ปฏิบัติการร่วมกับสายการบิน ผู้ประกอบการให้บริการภาคพื้น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งหมด 3 ครั้ง ในวันที่ 8 และ 12 ก.ย.66 ช่วงเวลากลางวัน และวันที่ 20 ก.ย.66 ช่วงเวลากลางคืน เพื่อสร้างความมั่นใจในความพร้อมสำหรับการเปิดให้บริการแบบ Soft Opening ในวันที่ 28 ก.ย.66 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ สายการบินที่จะเข้าทำการบินที่อาคาร SAT – 1 ในระยะแรกมีจำนวน 2 สายการบิน ได้แก่ สายการบินไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ และ สายการบินไทยเวียตเจ็ท ทั้งนี้ ในสัปดาห์แรกที่เปิดให้บริการ สายการบินไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์จะให้บริการวันละประมาณ 14 เที่ยวบิน และสายการบินไทยเวียตเจ็ทจะให้บริการวันละประมาณ 4 เที่ยวบิน