5 หุ้นพลังงานบวกคึก! รับน้ำมันดิบพุ่ง 4% หวั่นสงคราม “อิสราเอล-ปาเลสไตน์” กระทบอุปทาน
5 หุ้นพลังงานคึกคัก ขานรับ “น้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส” พุ่ง 4% แตะระดับ 86 ดอลลาร์/บาร์เรล นักลงทุนมองสงครามระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ อาจจะส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันในตลาดโลก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (9 ต.ค.66) ณ เวลา 10:15 น. ราคาหุ้นในกลุ่มพลังงานปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างคึกคัก นำทีมโดย บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP อยู่ที่ระดับ 166 บาท บวก 4 บาท หรือ 2.47% สูงสุดที่ระดับ 169 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 166 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.50 พันล้านบาท
บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT อยู่ที่ระดับ 32 บาท บวก 0.25 บาท หรือ 0.79% สูงสุดที่ระดับ 32.50 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 32 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 306.53 ล้านบาท
บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP อยู่ที่ระดับ 47.75 บาท บวก 1 บาท หรือ 2.14% สูงสุดที่ระดับ 48.25 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 47.75 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 114.75 ล้านบาท
บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP อยู่ที่ระดับ 38.75 บาท บวก 0.75 บาท หรือ 1.97% สูงสุดที่ระดับ 39 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 38.50 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 57.14 ล้านบาท
บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC อยู่ที่ระดับ 8.45 บาท บวก 0.20 บาท หรือ 2.42% สูงสุดที่ระดับ 8.65 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 8.45 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 91.89 ล้านบาท
โดยราคาหุ้นในกลุ่มพลังงานปรับตัวเพิ่มขึ้นตาม สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) พุ่งขึ้นกว่า 4% ในช่วงเช้าวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนมองว่าการสู้รบอันดุเดือดระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธในปาเลสไตน์ จะทำให้สถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางทวีความรุนแรงมากขึ้น และอาจจะส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันในตลาดโลก
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ (WTI) ส่งมอบเดือนพ.ย. พุ่งขึ้น 3.55 ดอลลาร์ หรือ 4.29% แตะที่ระดับ 86.34 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสเปิดฉากขึ้น เมื่อกลุ่มฮามาสโจมตีอิสราเอลแบบไม่ทันตั้งตัวในช่วงเช้าวันเสาร์ที่ผ่านมา (7 ต.ค.) โดยระดมยิงจรวดหลายพันลูกจากฉนวนกาซา พร้อมทั้งส่งกองกำลังติดอาวุธหลายสิบคนแทรกซึมเข้าไปโจมตีในหลายเมืองทางตอนใต้ของอิสราเอล
ขณะที่อิสราเอลตอบโต้กลุ่มฮามาสด้วยการส่งเครื่องบินรบถล่มฉนวนกาซา ส่งผลให้บ้านเรือน มัสยิด และบ้านพักของเจ้าหน้าที่ของกลุ่มฮามาสได้รับความเสียหายอย่างหนัก ทางด้าน นายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ประกาศกร้าวว่าจะใช้ปฏิบัติการทางทหารเอาคืนกลุ่มฮามาสอย่างสาสม
ด้านนักลงทุนจับตาสถานการณ์ของอิหร่านซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ หลังจาก หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของอิหร่านให้การสนับสนุนกลุ่มฮามาสในการวางแผนโจมตีอิสราเอลในครั้งนี้ โดยหากมีการยืนยันว่าอิหร่านเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้จริง ก็อาจจะทำให้สหรัฐฯ เพิ่มมาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่าน รวมถึงการห้ามไม่ให้อิหร่านส่งออกน้ำมัน ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันในตลาดโลก