ปิดฉากคดี SCC ศาลฯ สั่งคืนหุ้นมูลค่ากว่า 211.26 ลบ.
ปิดฉากคดี SCC ศาลฏีกาสั่งให้ “ประพันธิ์ ชูเมือง” คืนหุ้นจำนวน 672,000 หุ้น ซึ่งราคาต้องไม่ต่ำกว่าหุ้นละ 314.38 บ. หรือมูลค่ารวมไม่ต่ำกว่า 211.26 ลบ. พร้อมให้ SCC ในฐานะนายจ้างต้องร่วมรับผิด จากกรณีผู้จัดการมรดก-ทายาทผู้ถือหุ้นยื่นฟ้องอดีตพนักงานบริษัท (ประพันธิ์) ที่ทุจริตต่อผู้ถือหุ้น (ปลอมแปลงใบหุ้น)
บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SCC ระบุว่า เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2558 ศาลฎีกาได้มีคำพิพากษายื่นตามศาลอุทธรณ์ โดยให้นายประพันธิ์ ชูเมือง (อดีตพนักงานของบริษัท) คืนหุ้นของบริษัทจำนวน 672,000 หุ้นให้แก่โจทก์ หากคืนไม่ได้ให้ใช้ราคาหุ้นบริษัทตามราคาซื้อขายครั้งสุดท้าย ณ วันที่ใช้ราคาซึ่งต้องไม่ต่ำกว่าราคาหุ้นละ 314.38 บาทหรือมูลค่ารวมไม่ต่ำกว่า 211,263,360 บาท
พร้อมทั้งเงินปันผลที่ยังขาดอยู่ และให้บริษัทในฐานะนายจ้างต้องร่วมรับผิดกับการกระทำของนายประพันธิ์ และให้บริษัทศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จากัด ร่วมรับผิดในฐานะนายทะเบียนหุ้น ซึ่งดูแลการเปลี่ยนแปลงชื่อผู้ถือหุ้น ออกใบหุ้นใหม่ หรือการโอนหุ้นของบริษัท โดยบริษัทอยู่ระหว่างดาเนินการตามคาพิพากษาของศาล
จากกรณีที่ได้มีผู้จัดการมรดกและทายาทผู้ถือหุ้นรายหนึ่งยื่นฟ้องบริษัทพร้อมกับบุคคลและนิติบุคคลอื่นรวม 9 รายต่อศาลแพ่งเมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2552 ให้ร่วมรับผิดในฐานละเมิด เรียกคืนหุ้นและค่าเสียหายจากการที่อดีตพนักงานบริษัทที่ทุจริตต่อผู้ถือหุ้น (ปลอมแปลงใบหุ้น)
โดยมีจำนวนทุนทรัพย์ประมาณ 223 ล้านบาท ซึ่งต่อมาเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2554 ศาลแพ่ง (ศาลชั้นต้น) ได้มีคำพิพากษาว่านายประพันธิ์ (อดีตพนักงานของบริษัท) กระทำการละเมิดต่อโจทก์และให้นายประพันธิ์คืนหุ้นของบริษัทจำนวน 672,000 หุ้นให้แก่โจทก์ หากไม่สามารถคืนได้ให้ใช้ราคาหุ้นเป็นเงิน 164,633,800 บาทและดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีนับแต่วันทำละเมิดจนกว่าจะชำระเสร็จ
พร้อมทั้งเงินปันผลที่ยังขาดอยู่ และให้บริษัทในฐานะนายจ้างต้องร่วมรับผิดชอบกับการกระทำของนายประพันธิ์ด้วย ซึ่งบริษัทได้ตั้งสำรองค่าใช้จ่ายดังกล่าวไว้ทั้งหมดแล้ว พร้อมทั้งได้ยื่นอุทธรณ์คาพิพากษาต่อศาลอุทธรณ์