YGG ปิดบวก 4% ผนึกพันธมิตร “จีน-เกาหลี” บุกตลาดภาพยนตร์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (17 ต.ค.66) ราคาหุ้น บริษัท อิ๊กดราซิล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ YGG ปิดตลาดที่ระดับ 7.30 บาท บวก 0.25 บาท หรือ 3.55% สูงสุดที่ระดับ 7.35 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 7.05 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 45.85 ล้านบาท

 

นายธนัช จุวิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร YGG กล่าวว่า บริษัทฯ ได้เปิดตัว ซีรี่ย์แอนิเมชั่น เรื่อง “HERO Inside” อย่างเป็นทางการแล้วในงาน MIPCOM 2023 ที่เมืองคานส์ ประเทศฝรั่งเศส หลังจากที่ได้มีการร่วมผลิตโดย บริษัท YGG Global จำกัด หรือ YGGG ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ YGG จับมือพันธมิตรยักษ์ใหญ่ “Tencent” จากจีน และ “Million Volt” บริษัทในเครือ CJ ENM จากเกาหลี

โดยซีรี่ย์แอนิเมชั่น “HERO Inside” จะเริ่มทยอยออกฉายทั่วโลกในครึ่งปีแรกของปี 67 โดยมีเป้าหมายหลักในตลาดสหรัฐฯ  เอเชียแปซิฟิกและโดยเฉพาะในตลาดจีน ซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง และมั่นใจว่าซีรี่ย์แอนิเมชั่น “HERO Inside” ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี เนื่องจากมีการผลิตโดยใช้เทคนิคพิเศษด้านคอมพิวเตอร์ มีภาพและงานกราฟิกสวยงามเสมือนจริง รวมทั้งรูปแบบและการดำเนินเรื่องมีความแปลกใหม่น่าสนใจชวนติดตาม

ทั้งนี้ ซีรี่ย์ HERO Inside จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ต่างชาติรู้จัก YGG ในฐานะผู้ร่วมผลิต และเจ้าของผลงาน ซึ่งมั่นใจว่าจะได้กระแสตอบรับที่ดี เพราะขณะนี้มีบริษัทตัวแทนจากหลายประเทศได้ซื้อสิทธิเพื่อเตรียมพร้อมนำออกฉาย ซึ่งมูลค่าทางการตลาดทั่วโลกยังสูงมาก จึงเป็นโอกาสของบริษัทที่จะเพิ่มการรับรู้รายได้รูปแบบใหม่ๆ

“YGG ได้รับเชิญให้เข้าร่วมงาน MIPCOM 2023 ที่เมืองคานส์ ประเทศฝรั่งเศส จัดตั้งแต่วันที่ 16-19 ต.ค.66 เป็นงานเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ระดับโลก อุตสาหกรรมบันเทิงระดับโลกมารวมตัวกัน และสามารถเชื่อมต่อกับครีเอเตอร์ ผู้ผลิต และผู้นําในอุตสาหกรรมได้ ซึ่งถือเป็นการเปิดโอกาสในการหาพันธมิตรทางธุรกิจระดับโลก และให้ต่างชาติรู้จักผลงานของ YGG ในฐานะผู้ร่วมผลิต และเจ้าของ ในงานนี้ยังได้เปิดตัว “HERO Inside” ซีรี่ย์แอนิเมชั่น เรื่องใหม่ที่จับมือกับพันธมิตรที่แข็งแกร่งจากจีน คือ Tencent และ CJ ENM ของเกาหลี จะเริ่มทยอยเปิดฉายทั่วโลกในปีหน้า” นายธนัช กล่าว

บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ให้คำแนะนำ “ซื้อ” YGG ราคาเป้าหมายที่ 9 บาท สำหรับธุรกิจเกมของ YGG โครงการต่างๆ กำลังดำเนินไปตามแผนที่วางไว้ ขณะนี้ HSHO อยู่ระหว่างการอัพเกรดเพื่อเปิดตัวสู่ตลาดต่างประเทศ ด้าน GOI มีกำหนดจะเปิดตัวเวอร์ชันเต็มในต้นปี 67 หลังจากอัปเกรดเป็น Unreal 5.2 สำหรับโปรเจ็กต์ Grandora ซึ่งดำเนินการภายใต้แนวคิด “ปลุกจินตนาการของคุณ” มีกำหนดเบต้าแบบปิดในไตรมาส 4/66 ตามด้วยเบต้าแบบเปิดในไตรมาส 1/67

ทั้งนี้ จึงคาดการณ์กำไรระยะสั้นของ YGG จะดีขึ้นในช่วงไตรมาส 3/66 เนื่องจากการรับรู้รายได้จากโครงการ VFX ที่เลื่อนออกไปก่อนหน้านี้ซึ่งมองว่าจะชัดเจนขึ้น โดยประเมินกำไรหลักไตรมาส 3/66 อยู่ที่ 28-30 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40-50% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 10-20% เทียบกันกับไตรมาสก่อนหน้า

นอกจากรากฐานรายได้จากการบริการที่แข็งแกร่งแล้ว บริษัทฯ กำลังขยายไปสู่ธุรกิจที่เน้นสร้างรายได้จากผลิตภัณฑ์ ขณะเดียวกันการขยายตัวนี้จะไม่ใช่แค่สำหรับธุรกิจเกม ซึ่งแสดงถึงการเป็นก้าวครั้งสำคัญของบริษัทฯ โดยก้าวแรกที่สำคัญนี้คือการร่วมลงทุนในโครงการ Hero Inside

สำหรับการร่วมมือระหว่าง YGG กับ Tencent บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ที่มีชื่อเสียงของประเทศจีน และ Million Volt (สตูดิโออนิเมชันของเกาหลีใต้ที่ได้รับการสนับสนุนจาก CJ ENM) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ CJ Group ของเกาหลี และ Netmarble

โดยการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์นี้ยังนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงในโครงสร้างรายได้เช่นกัน ด้วยธุรกิจรูปแบบใหม่นี้ บริษัทฯ จะมีส่วนแบ่งจากกำไรขึ้นอยู่กับความสำเร็จของโครงการ โมเดลธุรกิจนี้ถือเป็นสัญญาณของการเติบโตที่มีศักยภาพสูงขึ้นอย่างมากสำหรับ YGG โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมองถึงภาพที่เปลี่ยนแปลงไปของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ ซึ่งแหล่งรายได้ในปัจจุบันยังรวมแพลตฟอร์ม OTT ด้วย