NER บวก 4% รับราคายางตลาดโลกพุ่ง โบรกแนะซื้อเป้า 6.20 บ. จับตา Q4 กำไรโตเด่น

NER บวก 4% รับราคายางตลาดโลกพุ่ง พ่วงจีนกระตุ้นเศรษฐกิจดันดีมานด์ยางพาราทะลัก โบรกแนะซื้อเป้า 6.20 บ จับตาไตรมาส 4/66 กำไรโตเด่น และเติบโตได้ดีต่อเนื่องในไตรมาส 1/67


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (18 ต.ค.66) ราคาหุ้น บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NER ณ เวลา 16:01 น. อยู่ที่ระดับ 4.88 บาท บวก 0.18 บาท หรือ 3.83% สูงสุดที่ระดับ 4.90 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 4.66 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 103.94 ล้านบาท

โดยก่อนหน้านายชูวิทย์ จึงธนสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร NER  เปิดเผยกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” ว่า บริษัทค่อนข้างได้รับผลบวกโดยตรงจากราคายางในตลาดโลกที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งราคายางมีการทยอยปรับตัวขึ้นมาเป็นระยะ ๆ นับตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันราคายางปรับเพิ่มขึ้นมามากกว่า 30% และราคายางที่ปรับเพิ่มขึ้นจะสะท้อนในผลการดำเนินงานของไตรมาส 3/2566 และจะชัดเจนมากขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 4/2566 เป็นต้นไป

ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทมีคำสั่งซื้อสินค้า (Order) ลากยาวไปครอบคลุมไตรมาส 4/2566 แล้ว และเชื่อว่าผลการดำเนินงานน่าจะเติบโตได้ดีต่อเนื่องในไตรมาส 1/2567 จากออเดอร์ที่เพิ่มเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ส่วนกรณีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศจีนนั้นมองว่ายิ่งเป็นผลดีต่อ NER เนื่องจากอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับยางพาราในประเทศจีนจะมีความต้องการใช้ยางมากขึ้น เช่น อุตสาหกรรมยางล้อ เป็นต้น ซึ่ง NER มีสัดส่วนลูกค้าจีนคิดเป็นกว่า 60% ของพอร์ตรวม

“อุตสาหกรรมยางล้อจะได้ผลบวกจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจทั่วไป และในส่วนของยานยนต์ไฟฟ้า (EV) มั่นใจว่าออเดอร์ที่ยังหนาแน่น และราคายางที่ดีจะช่วยหนุนผลการดำเนินงานทั้งปี 2566 มีปริมาณขายสินค้าเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 500,000 ตัน ภายใต้กำลังการผลิตทั้งหมด 515,600 ตัน หรือคิดเป็นรายได้จากการขายประมาณ 30,000 ล้านบาท เทียบกับปริมาณขายปี 2565 อยู่ที่ 446,090 ตัน หรือคิดเป็นรายได้จากการขาย 25,000 ล้านบาท นอกจากนี้จะมีการประชุมคณะกรรมการเพื่ออนุมัติ และประกาศงบในช่วงต้นเดือน พ.ย. 2566” นายชูวิทย์ กล่าว

บทวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ประเมินว่าราคาหุ้นกลุ่มยางพาราจะปรับตัวขึ้น คาดตอบรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจีน ซึ่งน่าจะส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ของจีน และหนุนต่อความต้องการล้อยางมากขึ้น ประกอบกับราคายางพารา SICOM ปรับตัวขึ้น และคาดว่าจะเป็นบวกต่อผลการดำเนินงานของกลุ่มยางพาราในไตรมาส 4/2566 แนะนำ “ซื้อ” NER ให้ราคาเป้าหมาย 6.20 บาทต่อหุ้น เนื่องจากคาดกำไรไตรมาส 4/2566 เติบโตเด่นที่สุดในหุ้นกลุ่มยาง จากราคายางที่ทรงตัวสูงต่อเนื่องในไตรมาส 4/2566  รวมทั้งต้นทุนการผลิตยังมีสต๊อกเก่า และค่าไฟลดลง  บวกกับคาดไตรมาส 1/2567 กำไรมีลุ้นกลับไประดับมากกว่า 600 ล้านบาทได้

 

Back to top button