SISB บวก 4% มั่นใจรายได้ปีนี้โต 30% รับนักเรียนทะลัก
SISB บวก 4% มั่นใจรายได้ปีนี้โต 30% รับนักเรียนทะลัก ปักธงทั้งปี 66 เข้าเป้า 4,100 ราย ฟากโบรกแนะนำซื้อเป้า 40 บาท อัพไซด์สูง 29%
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(19 ต.ค.66) ราคาหุ้นบริษัท เอสไอเอสบี จำกัด (มหาชน) หรือ SISB ล่าสุด ณ เวลา 15:09 น. อยู่ที่ระดับ 31.00 บาท บวก 1.25 บาท หรือ 4.20% ราคาสูงสุด 31.25 บาท ราคาต่ำสุด 29.00 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 80.73 ล้านบาท
โดยก่อนหน้านี้นายยิว ฮอค โคว ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SISB เปิดเผยว่า หลังจากเปิดโรงเรียนใหม่ 2 แห่ง อย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 15 ส.ค. 2566 (เทอม 1) ได้แก่ โรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์ นนทบุรี ขนาด 1,000 ที่นั่ง และ 2.โรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์ ระยอง ขนาด 1,000 ที่นั่ง ปรากฏว่าได้การตอบรับที่ดีมาก ซึ่งระยะแรกสาขานนทบุรี ปัจจุบันมีนักเรียน 270 ราย และสาขาระยอง 100 ราย
ทั้งนี้การเปิดโรงเรียนใหม่ทั้ง 2 แห่งดังกล่าว จะถึงจุดคุ้มทุนประมาณ 350-370 ราย และ 300 ราย ตามลำดับ ภายใน 7-8 ปี แต่ในไตรมาส 3/2566 ยังมีการบันทึกค่าใช้จ่ายเตรียมความพร้อมก่อนเปิดโรงเรียนอย่างเป็นทางการ เช่น ค่าบุคลากร และค่าใช้จ่ายเกี่ยวข้องอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นครั้งเดียว จำนวน 40 ล้านบาท และในไตรมาส 4/2566 จะไม่มีค่าใช้จ่ายส่วนนี้ ด้านค่าเสื่อมในการดำเนินธุรกิจน่าจะเฉลี่ยอยู่ที่ 5 ล้านบาทต่อเดือน ที่จะบันทึกเข้ามาในไตรมาส 3/2566 เป็นต้นไป
ขณะที่ในส่วนของรายได้โรงเรียนหลัก 4 แห่ง ได้แก่ สาขาประชาอุทิศ สาขาสุวรรณภูมิ สาขาธนบุรี และสาขาเชียงใหม่ ในไตรมาส 3/2566 ยังคงมีทิศทางที่ดี เนื่องจากเป็นการเปิดปีการศึกษาใหม่ ทำให้มีการปรับค่าธรรมเนียมการศึกษา (ค่าเทอม) และมีรายได้จากกิจกรรมทางการศึกษาที่เกี่ยวข้องเพิ่มขึ้น ตามจำนวนนักเรียนอีกด้วย รวมทั้งมีโรงเรียนใหม่ 2 แห่งดังกล่าวเข้ามาเสริมด้วย
ส่วนความคืบหน้าการขยายความสามารถในการรองรับนักเรียนเพิ่มขึ้น ได้แก่ สาขาประชาอุทิศ ที่มีการขยายเฟสใหม่รองรับได้เพิ่ม 300 ที่นั่ง คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือน ต.ค. 2566 ส่วนสาขาเชียงใหม่ เฟส 2 รองรับได้ 300 ที่นั่ง คาดว่าจะเสร็จภายในสิ้นปี 2566 และเปิดในเดือน ม.ค. 2567 ขณะที่สาขาธนบุรีรองรับได้ 600 ที่นั่ง ปัจจุบันอยู่ระหว่างหาพื้นที่ในการขยาย ซึ่งการขยายทั้งหมดนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการของนักเรียนที่จะเข้ามาศึกษาในกลุ่ม SISB เป็นอย่างมาก
สำหรับเป้าหมายมีฐานนักเรียนในระบบปี 2566 บริษัทประเมินตัวเลขใหม่ไว้ที่ 4,100 ราย จากเป้าหมายเดิม 3,700 รายเทียบกับปี 2565 อยู่ที่ 3,114 ราย ถือเป็นอันดับ 1 ของโรงเรียนเอกชนประเทศไทย ภายใต้คุณภาพ และค่าเทอมเฉลี่ยที่ดีที่สุดของตลาดโดยรวม 400,000-800,000 บาท ส่วน ณ ครึ่งปีแรกมีนักเรียนแล้ว 3,394 ราย แบ่งเป็น ชาวต่างชาติ 779 ราย (จีน ฮ่องกง ไต้หวัน 500 ราย) และ ณ วันที่ 26 ก.ย. 2566 จำนวนนักเรียนเพิ่มขึ้นมาเกิน 4,000 รายแล้ว จึงมั่นใจว่าภาพรวมปี 2566 จะมีฐานนักเรียนในระบบเพิ่มขึ้นตามเป้า และมีรายได้รวมเติบโตไม่ต่ำ 30% จากปี 2565 ที่มีรายได้รวม 1,344 ล้านบาท
นายยิว ฮอค โคว กล่าวต่อว่า แผนการขยายความสามารถในการรองรับนักเรียน และฐานนักเรียนในระบบปี 2566-2569 โดยในปี 2566 จะมีฐานนักเรียน 4,100 ราย จากปี 2565 อยู่ที่ 3,114 ราย ปี 2567 อยู่ที่ 4,600 ราย ปี 2568 อยู่ที่ 5,000 ราย และปี 2569 อยู่ที่ 5,400 ราย และความสามารถในการรองรับนักเรียนปี 2566 จะอยู่ที่ 6,675 ที่นั่ง จากปี 2565 อยู่ที่ 4,675 ที่นั่ง ปี 2567 อยู่ที่ 7,350 ที่นั่ง และปี 2568-2569 อยู่ที่ 8,000 ที่นั่ง ตามลำดับ
นอกจากนี้บริษัทมีแผนพัฒนาโรงเรียนสาขาใหม่ (โมเดลเดิม) และโรงเรียนสาขาในพื้นที่ต่างจังหวัด (โมเดลใหม่) โดยมีจังหวัด หรือพื้นที่น่าสนใจ ได้แก่ อุดรธานี นครสวรรค์ ขอนแก่น นครราชสีมา ภูเก็ต และนครศรีธรรมราช ที่มีค่าเทอมที่ถูกลงกว่าสาขาหลัก 50% หรือเริ่มต้น 200,000-300,000 บาท รวมถึงสนใจพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลเพิ่มเติม เช่น รังสิต ลำลูกกา ร่มเกล้า เป็นต้น เพื่อสนองนโยบายการขับเคลื่อนกลยุทธ์ “นำคุณภาพการศึกษาเข้าถึงผู้ปกครอง”
ด้านทิศทางตลาดโรงเรียนเอกชน มีโอกาสเติบโตที่ดีในอนาคต เนื่องจากผู้ปกครองในประเทศไทย และชาวต่างชาติมีรายได้เพิ่มขึ้น และมีลูกน้อยลง หรือจำนวนน้อยลง ทำให้การเลือกการศึกษาเป็นสิ่งสำคัญต่อบุตรหลาน และ SISB ค่อนข้างตอบโจทย์ทั้งคุณภาพ และราคาที่เหมาะสมเมื่อเทียบกับคู่แข่งรายอื่น ๆ สะท้อนจากอัตราการลาออกที่น้อยลงเป็นอย่างมาก เนื่องจากนักเรียนที่จบการศึกษามีคุณภาพที่สูง จึงเกิดการเล่าปากต่อปากของผู้ปกครอง
บล.ดาโอ ระบุในบทวิเคราะห์(12 ก.ย.66) ว่า บริษัท เอสไอเอสบี จำกัด (มหาชน) หรือ SISB คงคำแนะนำ“ซื้อ”ราคาเป้าหมายที่ 40.00 บาท หรือคิดเป็นอัพไซด์ 29% (เทียบราคาหุ้นล่าสุด 31.00 บาท) จากการอัพเดทข้อมูลหลังเปิดปีการศึกษาใหม่เมื่อเดือนส.ค. ที่ผ่านมาพบว่า โรงเรียนแห่งใหม่ 2 แห่งเปิดดำเนินการตามแผน
โดยปัจจุบันมีจำนวนนักเรียนรวม 4,070 คน (จาก 3,394 คน ณ สิ้นไตรมาส 2/66) ในขณะที่การปรับค่าเทอมของปีการศึกษาใหม่โดยรวมสามารถปรับขึ้นได้ 5% ตามแผน ธุรกิจมีพัฒนาการที่ดี โดยเฉพาะจำนวนนักเรียนซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่าที่ตั้งเป้าไว้ในปีนี้แล้วที่ 3,700 คน
อย่างไรก็ตามประเมิน upside ต่อประมาณการกำไรปี 66 ที่ 673 ล้านบาท โต 84% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ยังจำกัด (ราว 3%) เบื้องต้นจึงยังคงประมาณการดังกล่าว ทั้งนี้แนวโน้มครึ่งหลังปี 66 คาดเติบโตได้ทั้งเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และเทียบไตรมาสก่อนหน้า จากจำนวนนักเรียนที่เพิ่มขึ้นและการปรับค่าเทอมสำหรับปีการศึกษาใหม่