น้ำมันดิบปิดบวกรับข้อมูลศก.สหรัฐฯสดใส
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (22 ธ.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ รวมถึงตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3 ของสหรัฐที่ขยายตัวได้ดีเกินคาด และตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคที่ปรับตัวสูงขึ้นในไตรมาส 3
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 33 เซนต์ หรือ 0.9% ปิด (22 ธ.ค.) ที่ 36.14 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.พ.ลดลง 24 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 36.11 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า จีดีพี ขั้นสุดท้ายสำหรับไตรมาส 3 ของปีนี้ ขยายตัว 2.0% ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ระดับ 1.9% และสูงกว่าระดับ 0.6% ในไตรมาสแรก
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดการใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 2 ใน 3 ของตัวเลขจีดีพีนั้น ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.0% ในไตรมาส 3 โดยได้แรงหนุนจากตลาดแรงงานที่แข็งแกร่ง และราคาบ้านที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ อัตราเงินเฟ้อต่ำก็เป็นปัจจัยหนุนการใช้จ่ายเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ตลาดน้ำมันยังคงได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลที่ว่า สหรัฐยังคงผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้น แม้ว่าราคาน้ำมันดิบชะลอตัวลงก็ตาม โดยสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สหรัฐผลิตน้ำมันดิบเพิ่ม 12,000 บาร์เรล แตะระดับ 9.176 ล้านบาร์เรล/วัน ในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 11 ธ.ค. ขณะที่สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งขึ้นเกินคาด 4.8 ล้านบาร์เรลในรอบสัปดาห์ดังกล่าว สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะลดลง 1.4 ล้านบาร์เรล