ราคาทองคำปิดร่วงเกือบ 6 ดอลล์ หลังสหรัฐฯเผยข้อมูลศก.แข็งแกร่ง

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (23 ธ.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ซึ่งรวมถึงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่พุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 5 เดือน ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และหันไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า เช่นตลาดหุ้น


สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ร่วงลง 5.8 ดอลลาร์ หรือ 0.54% ปิด (23 ธ.ค.) ที่ระดับ 1,068.30 ดอลลาร์/ออนซ์, สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 2.7 เซนต์ หรือ 0.19% ปิดที่ 14.287 ดอลลาร์/ออนซ์, สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ร่วงลง 4.9 ดอลลาร์ หรือ 0.56% ปิดที่ 868.10 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.ปรับลง 1.40 ดอลลาร์ หรือ 0.3% ปิดที่ 553.25 ดอลลาร์/ออนซ์

นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย โดยผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นขั้นสุดท้ายของผู้บริโภคสหรัฐดีดตัวขึ้นในเดือนธ.ค. แตะระดับ 92.6 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือนและเป็นการปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3

ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่เพิ่มขึ้น 4.3% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 490,000 ยูนิต ส่วนในช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้ ยอดขายบ้านใหม่พุ่งขึ้น 14.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และบ่งชี้ว่ายอดขายบ้านมีแนวโน้มทำสถิติพุ่งขึ้นมากที่สุดในปีนี้ นับตั้งแต่ปี 2007

ทั้งนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ประกอบกับตลาดหุ้นนิวยอร์กที่พุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ ส่งผลให้นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และหันไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า เช่นตลาดหุ้น

นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น โดยดัชนีดอลลาร์ปรับตัวขึ้น 0.24% สู่ระดับ 98.46 ทั้งนี้ เมื่อดอลลาร์แข็งค่าขึ้นจะทำให้สัญญาทองคำซึ่งซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์มีราคาแพงขึ้นและไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่น

Back to top button