MAJOR บวก 2% ลุ้นกำไร Q4 โตเด่น หลังรายได้ “สัปเหร่อ-ธี่หยด” ทะลุ 700 ล้าน
MAJOR บวก 2% โบรกชี้กำไรไตรมาส 4/66 ฟื้นเด่น รับหนังไทย 2 เรื่องทำรายได้สูง คือ สัปเหร่อ และ ธี่หยด มีรายได้รวมจากการฉายทั่วประเทศกว่า 700 ล้านบาท โดยยังคงแนะนำราคาเป้าหมายที่ 19.1 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (30 ต.ค.66) ราคาหุ้น บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAJOR ณ เวลา 10:53 น. อยู่ที่ระดับ 14.90 บาท บวก 0.30 บาท หรือ 2.05% สูงสุดที่ระดับ 15.00 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 14.70 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 66.06 ล้านบาท
บล.กรุงศรีพัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (30 ต.ค.66) ว่ามีแนวโน้มที่ MAJOR จะรายงานกำไรไตรมาส 3/66 สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยได้แรงหนุนจากรายการพิเศษ ทั้งนี้คาดว่ากำไรไตรมาส 3/66 จะอยู่ที่ 94 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 356% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน
ส่วนแนวโน้มกำไรไตรมาส 4/66 ฟื้นตัวเด่นจากเบื้องต้นมีหนังไทย 2 เรื่องทำรายได้สูง และช่วงที่เหลือของไตรมาสยังมีหนังฟอร์มใหญ่รอฉายอีกหลายเรื่อง โดยรวมปรับเพิ่มกำไรหนุนกำไรปี 66 เพิ่มขึ้น 370.2% และในปี 67 เพิ่มขึ้น 3.4% สำหรับการซื้อขายอยู่บนอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรต่อหุ้น (PER) ปี 67 อยู่ที่ 14.8 เท่า โดยให้ Yield มากกว่าปีละ 6%
โดยช่วงต้นไตรมาส 4/66 มีภาพยนตร์ไทยประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง 2 เรื่อง คือ “สัปเหร่อ” ซึ่งเข้าฉายวันที่ 5 ต.ค.66 มีรายได้จากการฉายทั่วประเทศกว่า 500 ล้านบาท และ “ธี่หยด” ซึ่งเข้าฉาย 26 ต.ค.66 (MAJOR ร่วมผลิตกับ BEC) มีรายได้จากการฉายทั่วประเทศ 200 ล้านบาท
ขณะที่ช่วงที่เหลือของไตรมาสยังมีภาพยนตร์ฟอร์มใหญ่ทั้งไทยและ Hollywood รอฉายหลายเรื่อง (Fig3) เบื้องต้นคาดกำไรสุทธิไตรมาส 4/66 ฟื้นโดดเด่นทะลุ 400 ล้านบาทในรอบ 4 ปี โดยยังคงแนะนำราคาเป้าหมายที่ 19.1 บาท