“เศรษฐา” พบ นายกฯสปป. ลาว คุยซื้อขายพลังงานสะอาด พร้อมลดอุปสรรคการค้า

“เศรษฐา” หารือ “นายกฯ สปป. ลาว” เน้นย้ำซื้อขายพลังงานสะอาด เชื่อมขนส่ง ลดอุปสรรค เร่งก่อสร้างสะพานข้ามน้ำโขง ไทยพร้อมปล่อยกู้ดอกเบี้ยพิเศษ


เมื่อเวลา 08.35 น. วันที่ 30 ตุลาคม (ตามเวลาท้องถิ่น) ที่สำนักงานนายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เข้าร่วมพิธีต้อนรับอย่างเป็นทางการ และการหารือเต็มคณะระหว่างนายกรัฐมนตรีและนายสอนไซ สีพันดอน นายกรัฐมนตรี สปป. ลาว  ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีไทยและนายกรัฐมนตรี สปป. ลาว ต่างแสดงความยินดีที่ได้พบกันเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์และความร่วมมือให้ใกล้ชิดกัน

โอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายได้หารือร่วมกันในประเด็นความร่วมมือที่สำคัญ โดยทางด้านการค้า นายกรัฐมนตรีพร้อมสนับสนุนการเชื่อมโยงกันทางเศรษฐกิจระหว่าง สปป. ลาว กับ ภาคอีสานของไทย ให้เป็น Growth Area ที่เกื้อกูลกัน พร้อมเห็นควรร่วมกันหาแนวทางลดอุปสรรคและเร่งอำนวยความสะดวกทางการค้าระหว่างกัน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการค้าที่ 11,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2568 ทั้งนี้ ฝ่ายไทยพร้อมจัดการประชุมระหว่างกระทรวงพาณิชย์ กับกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า สปป. ลาว ครั้งต่อไป เพื่อกำหนดแนวทางในการเพิ่มปริมาณการค้าระหว่างกันต่อไป

สำหรับโครงสร้างพื้นฐานด้านความเชื่อมโยง นายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำการสนับสนุนนโยบายของรัฐบาล สปป. ลาว ที่ต้องการเปลี่ยนประเทศจาก Land-locked เป็น Land-linked และพร้อมสานต่อการทำงานร่วมกับฝ่าย สปป. ลาว ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมความเชื่อมโยงด้านคมนาคมขนส่งระหว่างสองประเทศ

ในส่วนความเชื่อมโยงทางระบบราง นายกรัฐมนตรี ขอให้ทั้งสองฝ่ายเร่งรัดการหารือรายละเอียดเพื่อเริ่มก่อสร้างสะพานสำหรับรถไฟข้ามแม่น้ำโขง (หนองคาย-เวียงจันทน์) โดยไทยพร้อมสนับสนุนแหล่งเงินกู้ดอกเบี้ยอัตราพิเศษ นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีขอให้ทั้งสองฝ่ายเร่งรัดการจัดทำกรอบความตกลง (Technical Arrangement) เพื่อเริ่มเดินรถไฟระหว่างสถานีท่านาแล้งมาถึงสถานีรถไฟเวียงจันทน์ (คำสะหวาด) ได้ในต้นปีหน้า ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการเดินทางและการท่องเที่ยวระหว่างกัน

สำหรับความเชื่อมโยงทางถนนและสะพาน นายกรัฐมนตรี กล่าวยินดีที่หลายโครงการมีความคืบหน้า ทั้งโครงการสะพานมิตรภาพ แห่งที่ 5 (บึงกาฬ-บอลิคำไซ) ซึ่งก่อสร้างใกล้เสร็จสมบูรณ์ โครงการสะพานมิตรภาพ แห่งที่ 6 (อุบลราชธานี-สาละวัน) ซึ่งทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องในหลักการแล้ว รวมถึงโครงการปรับปรุงทางหลวงหมายเลข 12 (นครพนม/ท่าแขก แขวงคำม่วน – นาเพ้า แขวงบอลิคำไซ/ จาลอ จังหวัดกว่างบิงห์ เวียดนาม) เพื่อช่วยส่งเสริมการขนส่งระหว่างไทย – สปป. ลาว – เวียดนาม – จีน ให้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น และพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนตามแนวเส้นทางนี้ด้วย

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การขนส่งและโลจิสติกส์ในด้านรางนั้น ขอให้ทั้งสองฝ่ายร่วมพิจารณาแนวทางเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งและโลจิสติกส์ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับการลดระยะเวลาและต้นทุนการขนส่ง ทั้งนี้ ฝ่ายลาวรับสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาร่วมกัน โดยขอให้มีการกำหนดอัตราค่าบริการ (handling charge) ที่ชัดเจน และแน่นอนในการเปลี่ยนถ่ายสินค้าที่เวียงจันทน์ (Vientiane Logistic Park -VLP) เพื่อให้ผู้ประกอบการไทยสามารถวางแผนได้ล่วงหน้า การค้าขายทางระบบรางจะเพิ่มขึ้น

ในด้านถนน นายกรัฐมนตรีขอให้ฝ่ายลาวพิจารณาให้รถบรรทุกหัวลากตู้คอนเทนเนอร์ของไทยขนส่งสินค้าเข้าไปใน สปป. ลาว ได้เหมือนช่วงก่อนเกิดสถานการณ์โควิด-19 ขณะที่ด้านพิธีการศุลกากร นายกรัฐนตรีขอให้ทั้งสองฝ่ายเร่งรัดการจัดตั้ง Common Control Area (CCA) ที่บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 2 (มุกดาหาร-สะหวันนะเขต) เพื่อช่วยลดต้นทุนให้ผู้ประกอบการทั้งสองฝ่าย

สำหรับปัญหาหมอกควันข้ามแดน ทั้งสองฝ่ายให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ และเห็นพ้องเร่งรัดการจัดทำแผนปฏิบัติการร่วม (Joint Action Plan) ระหว่าง 3 ประเทศ (ไทย สปป. ลาว และเมียนมา) ซึ่งจะช่วยบรรเทาผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน ทั้งนี้ ไทยมีแผนสนับสนุน สปป. ลาว ในการจัดทำแผนที่พื้นที่เสี่ยงการเกิดไฟป่า (Fire Risk Map) และการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งหน่วยงานของทั้งสองฝ่ายจะประสานงานกันอย่างใกล้ชิดต่อไป

 

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี สนใจซื้อพลังงานสะอาดจากลาวเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับอุตสาหกรรมในประเทศไทยที่ขยายตัว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ นายกรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรี สปป. ลาว ร่วมเป็นสักขีพยานการลงนามเอกสารสำคัญ และส่งมอบโครงการต่าง ๆ ดังนี้

1.พิธีลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างกระทรวงวัฒนธรรม กับกระทรวงแถลงข่าว วัฒนธรรม และการท่องเที่ยว สปป. ลาว

2.พิธีลงนามบันทึกความร่วมมือสำหรับการให้ความร่วมมือทางวิชาการในรูปแบบการเสริมสร้างขีดความสามารถสำหรับการฝึกพนักงานขับรถไฟและพนักงานจำหน่ายตั๋ว และการจัดทำแผนธุรกิจให้กับรถไฟแห่งชาติลาว (Record of Discussions between NEDA and Lao National Railway for the Technical Assistance for the Capacity Building for Locomotive Driving and Ticketing System and Development of a Business Model for the Lao National Railway)

3.พิธีส่งมอบสวนรุกชชาติมิตรภาพเพื่อฉลองครบรอบ 70 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตราชอาณาจักรไทย – สปป. ลาว 4.พิธีส่งมอบศูนย์การเรียนรู้เพื่อพัฒนาการเกษตรแบบยั่งยืนตามแนวทางปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงให้แก่โรงเรียนเทคนิควิชาชีพแบบผสม แขวงอัตตะปือ

Back to top button