MCA ดีดบวก 11% จับตาครึ่งปีหลังโต คว้างาน “เป๊ปซี่-โคล่า” 83 ล้าน รับรู้ไตรมาส 4
MCA เด้ง 11% ส่งซิกครึ่งหลังปีนี้ธุรกิจเติบโตก้าวกระโดด จากการรับรู้รายได้จากธุรกิจใหม่ Distributor ถึง 2 โครงการ ล่าสุดปิดดีลคว้างาน “เป๊ปซี่-โคล่า” มูลค่า 83 ล้านบาท เริ่มรับรู้ตั้งแต่ไตรมาส 4/66
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (31 ต.ค.66) ราคาหุ้น บริษัท มาร์เก็ต คอนเน็กชั่นส์ เอเชีย จำกัด (มหาชน) หรือ MCA ณ เวลา 10:41 น. อยู่ที่ระดับ 1.75 บาท บวก 0.18 บาท หรือ 11.46% สูงสุดที่ระดับ 1.82 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 1.60 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 107.31 ล้านบาท
นายภักดี เหล่างาม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MCA เปิดเผยว่า มั่นใจในธุรกิจที่ยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมากทั้งรายได้และกำไร เชื่อว่าผลการดำเนินงานที่ดีจะสะท้อนไปยังราคาหุ้นเองในอนาคต โดยแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/2566 จะออกมาสอดคล้องกับนักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ หรือเติบโตมากกว่าช่วงเดียวกันของปี 65
โดยเป็นผลจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและกำลังซื้อของผู้บริโภคกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ส่งผลให้ผู้ประกอบการกลับมาจัดกิจกรรม เพื่อส่งเสริมการตลาดเช่นเดิม และได้ผลประกอบการจากธุรกิจใหม่ Distributor เข้าสนับสนุน ซึ่งจะมีการประกาศงบไม่เกินวันที่ 15 พ.ย.66
ขณะที่ ผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 4/66 จะเติบโตได้ต่อเนื่อง ตามการขยายตัวของธุรกิจหลัก และล่าสุดได้รับงานใหม่ของบริษัท เป๊ปซี่-โคล่า (ไทย) เทรดดิ้ง จำกัด ในส่วนของกลุ่มของขบเคี้ยว (snack) มูลค่างาน 83 ล้านบาท สัญญางาน 2 ปี ดูแลจัดเรียง-เซลล์ ในทุกช่องทางการขาย ซึ่งจะมีการรับรู้รายได้จากการดำเนินงานเข้ามาในไตรมาส 4/2566 ทันที 20 ล้านบาท หากสามารถทำได้ดีตามที่ลูกค้าคาดหวัง จะมีโอกาสรับงานในฝั่งของกลุ่มเครื่องดื่มเพิ่มเข้ามาด้วยในอนาคต
ทั้งนี้ งานดังกล่าวข้างต้นถือเป็นงานสเกลใหญ่โครงการแรกหลังการระดมทุนขาย IPO และนับเป็นก้าวสำคัญตอกย้ำศักยภาพในการขยายสเกลงานบริการของ MCA สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นพัฒนาการให้บริการธุรกิจกิจกรรมทางการตลาดหลากหลายรูปแบบ ตอบสนองกลยุทธ์การตลาดลูกค้าได้ครบวงจร เพื่อการยกระดับองค์กรในการสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน และสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุน
นอกจากนี้ บริษัทมองว่าในช่วงที่เหลือของปี 66 จะได้อานิสงส์เชิงบวกจากการจัดกิจกรรมส่งเสริมทางการตลาดในช่วงการเข้าสู่เทศกาลปีใหม่ ทำให้ภาพรวมอุตสาหกรรมกลับมามีความคึกคัก พร้อมทั้งอยู่ระหว่างการเจรจาปิดดีลงานใหม่ในส่วนของกลุ่มธุรกิจการเป็นผู้จัดจำหน่ายสินค้า (Distributor) เพิ่มเติมอีก 1-2 ราย ปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจาต่อรองเรื่องมาร์จิ้น คาดว่าจะสรุปได้ภายในเดือน ธ.ค. 66 โดยพร้อมรับงานมากขึ้นในอนาคต และจะเติบโตอย่างโดดเด่น
โดยเชื่อว่าภาพรวมผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังของปี 66 จะเติบโตได้มากกว่าช่วงครึ่งปีแรก และช่วยหนุนให้ผลการดำเนินงานทั้งปี 66 มีรายได้จากการให้บริการเติบโตไม่ต่ำกว่า 38-40% จากปี 65 ที่มีรายได้จากการบริการ 372.77 ล้านบาท ซึ่งในช่วงครึ่งปีแรกมีรายได้จากการบริการแล้ว 210.73 ล้านบาท
ส่วนในปี 67 ยังมั่นใจว่ารายได้จากการบริการจะเติบโตไม่ต่ำกว่า 30% หรือเติบโตมากกกว่าตลาดที่คาดว่าจะเติบโต 15-20% จากการรับรู้รายได้ธุรกิจ Distributor เต็มปี และการรับรู้รายได้จากกลุ่มลูกค้าใหม่ของธุรกิจเดิม
“การเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหุ้น นับว่าเป็นก้าวที่สำคัญในการช่วยผลักดันให้บริษัทเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนในอนาคต เพื่อขับเคลื่อนองค์กรก้าวสู่การเป็นผู้นำในการวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาดและผู้ให้บริการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดที่ครบวงจร โดยใช้นวัตกรรมดิจิทัลเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานตั้งแต่ต้นน้ำ–ปลายน้ำ ที่สำคัญเงินทุนที่แข็งแกร่งขึ้น MCA จะกลับมารับงานสเกลใหญ่ที่เคยปฏิเสธไปเข้ามาเพิ่มเติมมากขึ้นในระยะ 2 ปีนับจากนี้” นายภักดี กล่าว
ขณะที่ หลังจากนี้เชื่อว่า MCA จะมีแนวโน้มการเติบโตอย่างก้าวกระโดด จากแผนขยายการลงทุนที่ชัดเจน โดยเฉพาะการเพิ่มโอกาสการต่อยอดธุรกิจใหม่ ภายใต้รูปแบบการให้บริการ Distributor ซึ่งจะเข้ามาสร้าง New S-Curve สู่การเติบโตทางธุรกิจในอนาคต ซึ่งสามารถตอบโจทย์ทุกช่องทางความหลากหลายในทุกรูปแบบของประเภทการให้บริการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาด ที่ตรงตามความต้องการของลูกค้าได้ทุกมิติ รวมถึงยังเป็นการสร้างฐานทุนที่แข็งแกร่ง ในการเพิ่มขีดความสามารถสำหรับรองรับงานขนาดใหญ่ได้เพิ่มมากขึ้น
สำหรับเงินระดมทุนจากการขาย IPO จำนวน 198 ล้านบาท บริษัทเตรียมนำไปต่อยอดและขยายสเกลงานใหม่เพิ่มเติมจาก 4 กลุ่มหลัก ได้แก่
- บริการจัดกิจกรรมทางการตลาดและดิจิทัล
- บริการบรรจุและจัดส่งสินค้า
- บริการพนักงานแนะนำสินค้า
- บริการจัดเรียงสินค้า และการต่อยอดธุรกิจการให้บริการใหม่ คือผู้จัดจำหน่ายสินค้า (Distributor)
ทั้งนี้เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ทุกมิติ ซึ่งตอกย้ำถึงการเป็นผู้นำในการให้บริการจัดกิจกรรมส่งเสริมทางการตลาดในรูปแบบ Marketing Agency ที่ตอบโจทย์ในทุก ๆ Solution ในการวางกลยุทธ์ทางการตลาดและผู้ให้บริการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดแบบ One-stop service
“อยากให้นักลงทุนเชื่อมั่นในศักยภาพของ MCA ดังนั้นการเข้าระดมทุนในวันนี้ถือเป็นความภูมิใจของบริษัท และพร้อมที่จะนำเงินที่ได้ไปขยายโอกาสการรับงานที่มีขนาดใหญ่ขึ้น และยังสามารถต่อยอดการให้บริการในรูปแบบใหม่ Distributor เพื่อเป็นการเข้าถึงฐานลูกค้าเดิม และฐานต่อยอดไปยังฐานลูกค้าใหม่ และพร้อมยืนยันว่าตนเองและผู้บริหารยังถือหุ้นครบตามสัดส่วนที่ได้เปิดเผยข้อมูลไว้ในไฟลิ่ง 68.91% ไม่ไปไหน แน่นอน” นายภักดี กล่าว
ด้านนายเอกจักร บัวหภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แคปปิตอล วัน พาร์ทเนอร์ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า หุ้น MCA มีความโดดเด่นที่เหนือกว่าผู้ประกอบการรายอื่นในอุตสาหกรรม เนื่องจากมีการให้บริการด้านแผนกลยุทธ์ทางการตลาดและการจัดกิจกรรมส่งเสริมทางการตลาดแบบ One-Stop Service Marketing สะท้อนให้เห็นถึงความน่าลงทุนในหุ้น MCA เนื่องจากด้วยธุรกิจของ MCA อยู่ในเทรนด์ของการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและแผนกระตุ้นยอดขายของกลุ่มผู้ประกอบการ ที่ยังคงจำเป็นต้องจัดกิจกรรมทางการตลาดเพิ่มกระตุ้นยอดขายให้เพิ่มขึ้นในแต่ละไตรมาส
ดังนั้นจากปัจจัยดังกล่าวจึงมองว่าหุ้น MCA เป็นหุ้น Growth Stock ที่น่าจับตาและเป็นหุ้นน้ำดีที่มีคุณภาพ อีกหนึ่งตัวสำหรับนักลงทุนในตลาดทุนไทย ส่วนเรื่องราคาเทรดต่ำจองวันแรก มองว่าเป็นไปตามภาวะตลาด และมี Big Lot
ส่วนนายกิตติพันธ์ ภูษณวรรณ กรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด ในฐานะผู้จัดการการจำหน่าย และรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน กล่าวว่า MCA มี Business Model ที่โดดเด่น เนื่องจาก MCA ให้บริการด้านแผนกลยุทธ์ทางการตลาด และการจัดกิจกรรมส่งเสริมทางการตลาดแบบ One-stop Service Marketing Solution ที่สามารถตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าได้อย่างครบวงจร ภายใต้การบริการจัดกิจกรรมทางการตลาดและดิจิทัล, การให้บริการบรรจุและจัดส่งสินค้า, การให้บริการพนักงานแนะนำสินค้า และการให้บริการจัดเรียงสินค้า และล่าสุดขยายสู่การเป็นผู้จัดจำหน่ายสินค้า (Distributor) ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความแตกต่างของการให้บริการ เมื่อเทียบกับผู้ประกอบการในกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกัน ดังนั้นด้วยศักยภาพและจุดเด่นความน่าสนใจของ MCA จึงเชื่อมั่นว่าหลังจากการเข้าระดมทุนในครั้งนี้แล้ว จะยังคงได้การตอบรับที่ดีจากกลุ่มนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง