JPARK บวกแรง 3% ย้ำรายได้ปีนี้โต 25% ไตรมาส 4 ขยายที่จอดรถเพิ่ม 2-3 พันช่อง

JPARK วิ่ง 3% จับตารายได้ครึ่งปีหลังโตเด่น คาดภายในปีนี้คว้าดีลใหญ่ 1 โครงการ พัฒนาพื้นที่จอดรถกว่า 1,000 ช่องจอด ตั้งเป้ารายได้ปีนี้โต 15-25%


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (31 ต.ค.66) ราคาหุ้น บริษัท เจนก้องไกล จำกัด (มหาชน) หรือ JPARK ณ เวลา 10:58 น. อยู่ที่ระดับ 4.18 บาท บวก 0.18 บาท หรือ 3.47% สูงสุดที่ระดับ 4.10 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 4.20 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 38.12 ล้านบาท

นายสันติพล เจนวัฒนไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร JPARK เปิดเผยว่า ทิศทางผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังของปี 66 บริษัทมั่นใจว่ารายได้จากการให้บริการจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับช่วงครึ่งปีแรกของปี 66 เนื่องจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจของประเทศไทย และการท่องเที่ยวของประเทศไทยมีการฟื้นตัวดีต่อเนื่อง ทำให้การใช้ชีวิตของประชาชนกลับมาเป็นปกติ และมีการสัญจรทางยานยนต์มากขึ้น

โดยเฉพาะกรุงเทพฯ และปริมณฑล ในโซนให้บริการพื้นที่จอดรถของ JPARK ภายใต้การดูแลกว่า 28,000 ช่องจอด ซึ่งครอบคลุมทั้งบริเวณจุดเชื่อมต่อ-จุดเปลี่ยนผ่านกับระบบรถไฟฟ้า ศูนย์การค้าแหล่ง CBD บริเวณโรงพยาบาล สถานศึกษา และสนามบิน

ขณะที่ บริษัทยังคงมีการขยายธุรกิจต่อเนื่อง โดยในช่วงครึ่งปีหลังของปี 66 ยังจะมีการรับรู้รายได้ธุรกิจให้บริการที่จอดรถเพิ่มขึ้นตามการขยายช่องจอด รวมถึงการให้คำปรึกษา และรับติดตั้งระบบบริหารจัดการพื้นที่จอดรถเพิ่มอีก 2 โปรเจกต์ เป็นต้น รวมทั้งมีงานที่ยังไม่ส่งมอบ ณ เดือน มิ.ย. 66 ที่จะทยอยรับรู้รายได้ภายในปี 69 อีกประมาณ 99.35 ล้านบาท (รับรู้รายได้ปีนี้ 43.49 ล้านบาท) ส่วนเรื่องกระแสข่าวโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ JPARK แอบกังวลอยู่บ้าง แต่เชื่อว่าสาธารณสุขไทยรับมือไหว และประชาชนรู้จักการป้องกันแล้ว จึงไม่น่ามีการระบาดใหญ่อีก

ถือเป็นความสำเร็จที่สำคัญของ JPARK พร้อมมีความยินดี และขอขอบคุณทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องที่ร่วมกันทำงานหนักมาโดยตลอด และขอขอบคุณนักลงทุนทุกท่านที่ให้ความสนใจ หรือเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในบริษัท หวังว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนแบบนี้ตลอดไป ทั้งนี้ในฐานะผู้บริหาร จะพยายามรักษาผลการดำเนินงานให้มีความโดดเด่น และเดินหน้าขยายธุรกิจเพื่อเสริมศักยภาพ รวมถึงสร้างเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปี 2566 ตั้งเป้าหมายมีรายได้จากการให้บริการเติบโต 15-25% จากปี 65 อยู่ที่ 452.30 ล้านบาท รวมถึงสร้างผลตอบแทนที่ดีต่อไปในอนาคต” นายสันติพล กล่าว

นายสันติพล กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทมีความสนใจในการขยายพื้นที่ให้บริการมากขึ้นในส่วนของโรงพยาบาลรัฐ เช่น โรงพยาบาลศิริราช  โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า โรงพยาบาลราชวิถี โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช และโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เป็นต้น ซึ่งที่กล่าวมาข้างต้นมีความแน่นอน 100% ที่จะขยายธุรกิจไป โดยภายในสิ้นปี 2566 คาดว่าจะคว้าสัญญาอย่างน้อย 1 โครงการ ขนาดมากกว่า 1,000 ช่องจอด พร้อมทั้งสนใจพื้นที่ในต่างจังหวัด 5-6 จังหวัด เช่น จังหวัดขอนแก่น ลำปาง และชลบุรี เป็นต้น หากมีรายละเอียด หรือมีความคืบหน้า จะแจ้งให้ทราบต่อไป

ด้าน บล.ฟินันเซีย ไซรัส แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 6.40 บาท คาดการณ์กำไรสุทธิไตรมาส 3/66 ที่ 21 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19% จากไตรมาสก่อน จากรายได้ที่คาดการณ์ว่าโต 24% จากไตรมาสก่อน จากการรับรู้รายได้จากธุรกิจบริการให้คำปรึกษาและรับติดตั้งระบบบริหารจัดการพื้นที่จอดรถ 3 โครงการและการเปิดบริการพื้นที่จอดรถบริเวณโรงพยาบาลลาดกระบัง

ทั้งนี้หากกำไรไตรมาส 3/66 เป็นตามคาดการณ์จะทำให้งวด 9 เดือนแรกของปี 66 คิดเป็น 76% ของประมาณการปี 66 ที่ 64 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% จากปีก่อน ซึ่งอาจมีอัพไซด์เนื่องจากแนวโน้มกำไรไตรมาส 4/66 แข็งแกร่งใกล้เคียงกับไตรมาส 3/66 ส่วนปี 67 คาดที่ 102 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 60% จากปีก่อน

Back to top button