JPARK วิ่ง 4 วันพุ่ง 15% โบรกเชียร์ “ซื้อ” เป้า 6.40 บาท อัพไซด์พุ่ง 44%
JPARK บวกยาว 4 วันพุ่งกว่า 15% จับตาประกาศงบไตรมาส 3/66 เติบโตต่อเนื่อง หนุนรายได้ทั้งปีนี้ทะยาน 25% โบรกชูเป้า 6.40 บาท อัพไซด์สูง 44%
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (1 พ.ย.66) ราคาหุ้น บริษัท เจนก้องไกล จำกัด (มหาชน) หรือ JPARK ณ เวลา 10:01 น. อยู่ที่ระดับ 4.44 บาท บวก 0.10 บาท หรือ 2.30% สูงสุดที่ระดับ 4.48 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 4.38 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 12.22 ล้านบาท
โดยราคาหุ้น JPARK ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 นับตั้งแต่ราคาปิดที่ระดับ 3.84 บาท เมื่อวันที่ 26 ต.ค.66 หรือคิดเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้น 15% จากราคาปัจจุบัน
นายสันติพล เจนวัฒนไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร JPARK เปิดเผยว่า ทิศทางผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังของปี 66 บริษัทมั่นใจว่ารายได้จากการให้บริการจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับช่วงครึ่งปีแรกของปี 66 เนื่องจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจของประเทศไทย และการท่องเที่ยวของประเทศไทยมีการฟื้นตัวดีต่อเนื่อง ทำให้การใช้ชีวิตของประชาชนกลับมาเป็นปกติ และมีการสัญจรทางยานยนต์มากขึ้น โดยเฉพาะกรุงเทพฯ และปริมณฑล ในโซนให้บริการพื้นที่จอดรถของ JPARK ภายใต้การดูแลกว่า 28,000 ช่องจอด ซึ่งครอบคลุมทั้งบริเวณจุดเชื่อมต่อ-จุดเปลี่ยนผ่านกับระบบรถไฟฟ้า ศูนย์การค้าแหล่ง CBD บริเวณโรงพยาบาล สถานศึกษา และสนามบิน
ขณะที่บริษัทยังคงมีการขยายธุรกิจต่อเนื่อง โดยในช่วงครึ่งปีหลังของปี 66 ยังจะมีการรับรู้รายได้ธุรกิจให้บริการที่จอดรถเพิ่มขึ้นตามการขยายช่องจอด รวมถึงการให้คำปรึกษา และรับติดตั้งระบบบริหารจัดการพื้นที่จอดรถเพิ่มอีก 2 โปรเจกต์ เป็นต้น รวมทั้งมีงานที่ยังไม่ส่งมอบ ณ เดือน มิ.ย. 66 ที่จะทยอยรับรู้รายได้ภายในปี 69 อีกประมาณ 99.35 ล้านบาท (รับรู้รายได้ปีนี้ 43.49 ล้านบาท) ส่วนเรื่องกระแสข่าวโควิด-19 สายพันธุ์ใหม่ JPARK แอบกังวลอยู่บ้าง แต่เชื่อว่าสาธารณสุขไทยรับมือไหว และประชาชนรู้จักการป้องกันแล้ว จึงไม่น่ามีการระบาดใหญ่อีก
“ถือเป็นความสำเร็จที่สำคัญของ JPARK พร้อมมีความยินดี และขอขอบคุณทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องที่ร่วมกันทำงานหนักมาโดยตลอด และขอขอบคุณนักลงทุนทุกท่านที่ให้ความสนใจ หรือเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในบริษัท หวังว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนแบบนี้ตลอดไป ทั้งนี้ในฐานะผู้บริหาร จะพยายามรักษาผลการดำเนินงานให้มีความโดดเด่น และเดินหน้าขยายธุรกิจเพื่อเสริมศักยภาพ รวมถึงสร้างเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปี 66 ตั้งเป้าหมายมีรายได้จากการให้บริการเติบโต 15-25% จากปี 65 อยู่ที่ 452.30 ล้านบาท รวมถึงสร้างผลตอบแทนที่ดีต่อไปในอนาคต” นายสันติพล กล่าว
นายสันติพล กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทมีความสนใจในการขยายพื้นที่ให้บริการมากขึ้นในส่วนของโรงพยาบาลรัฐ เช่น โรงพยาบาลศิริราช โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า โรงพยาบาลราชวิถี โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช และโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เป็นต้น ซึ่งที่กล่าวมาข้างต้นมีความแน่นอน 100% ที่จะขยายธุรกิจไป โดยภายในสิ้นปี 66 คาดว่าจะคว้าสัญญาอย่างน้อย 1 โครงการ ขนาดมากกว่า 1,000 ช่องจอด พร้อมทั้งสนใจพื้นที่ในต่างจังหวัด 5-6 จังหวัด เช่น จังหวัดขอนแก่น ลำปาง และชลบุรี เป็นต้น หากมีรายละเอียด หรือมีความคืบหน้า จะแจ้งให้ทราบต่อไป
ด้าน บล.ฟินันเซีย ไซรัส แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 6.40 บาท คาดการณ์กำไรสุทธิไตรมาส 3/66 ที่ 21 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19% จากไตรมาสก่อน จากรายได้ที่คาดการณ์ว่าโต 24% จากไตรมาสก่อน จากการรับรู้รายได้จากธุรกิจบริการให้คำปรึกษาและรับติดตั้งระบบบริหารจัดการพื้นที่จอดรถ 3 โครงการและการเปิดบริการพื้นที่จอดรถบริเวณโรงพยาบาลลาดกระบัง
ทั้งนี้หากกำไรไตรมาส 3/66 เป็นตามคาดการณ์จะทำให้งวด 9 เดือนแรกของปี 66 คิดเป็น 76% ของประมาณการปี 66 ที่ 64 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% จากปีก่อน ซึ่งอาจมีอัพไซด์เนื่องจากแนวโน้มกำไรไตรมาส 4/66 แข็งแกร่งใกล้เคียงกับไตรมาส 3/66 ส่วนปี 67 คาดที่ 102 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 60% จากปีก่อน