4 หุ้นโรงไฟฟ้าเด้ง! แรงซื้อกลับ! หลังอัพไซด์เปิดกว้าง พ่วงน้ำมันอ่อนตัว  

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(1 พ.ย.66) ราคาหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าดีดบวก นำโดยบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF ราคาหุ้น ณ เวลา 15:47 น. อยู่ที่ 44.50 บาท บวก 1.25 บาท หรือเพิ่มขึ้น 2.89% มูลค่าซื้อขาย 417.85 ล้านบาท

บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน หรือ GUNKUL ราคาหุ้น ณ เวลา 15:46 น. อยู่ที่ 2.48 บาท บวก 0.20 บาท หรือ เพิ่มขึ้น 8.77% มูลค่าซื้อขาย 273.86 ล้านบาท

บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM ราคาหุ้น ณ เวลา 16.02 น. อยู่ที่ 22.70 บาท บวก 0.60 บาท หรือเพิ่มขึ้น 2.71% มูลค่าซื้อขาย 371.85 ล้านบาท

บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC ราคาหุ้น ณ เวลา 16.13 น. อยู่ที่ 39.25 บาท บวก 0.25 บาท หรือเพิ่มขึ้น 0.94% มูลค่าซื้อขาย 294.48 ล้านบาท

บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้(1พ.ย.66) ประเมิน SET แกว่งตัว 1,370-1,390 จุด แม้จะได้ sentiment บวกสถานการณ์ สงครามในตะวันออกลางผ่อนคลายลงหลังกลุ่มฮามาสเตรียมปล่อยตัวประกัน ต่างชาติ อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันดิบที่ทรุดตัวลงหลังกลุ่มโอเปกผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้น เป็นลบต่อกลุ่มพลังงาน นอกจากนี้การชะลอการซื้อขายเพื่อติดตามการประชุม FOMC (คาดคงดอกเบี้ย 5.25-5.50% ) และจับสัญญาณทิศทางดอกเบี้ยในอนาคต จะกดดันให้ดัชนีผันผวน กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ GPSC,BGRIM,GULF,TASCO, SCGP อานิสงส์ราคาน้ำมันอ่อนตัวลง

บล. กรุงศรี พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้( 1 พ.ย.66) ว่า ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ยังเป็นขาลงระยะสั้น น้ำมันดิบเบรนต์ -1.54% เทียบวันก่อนหน้า ปิดที่  85.02 เหรียญ/บาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบ West Texas -1.57% เทียบเดือนก่อนหน้าปิดที่  81.02 เหรียญ/บาร์เรล และถ่านหินล่วงหน้า Newcastle -7.56% เทียบวันก่อนหน้าปิดที่ 121.1 เหรียญ/ตัน ผลจาก Dollar กลับมาแข็งค่าและจีนรายงานตัวเลข PMI ออกมาต่ำคาด และ EIA รายงานการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐในเดือน ส.ค. ที่ระดับ 13.05 ล้านบาร์เรล/วันทำระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เป็นบวกต่อหุ้นกลุ่ม Anticommodity อาทิ GULF, GPSC, TASCO

อีกทั้งบล.กรุงศรี พัฒนสิน ระบุในบทวิเคราะห์(27 ต.ค.66) ว่า หลังดัชนีหุ้นไทยหลุด 1,500 จุด ราว ๆ 1 เดือน หรือปรับลดลง 8.4% โดยตลาดหุ้นไทยเริ่มมีสัญญาณ Force Sell Single Stock Futures (Block Trade) OI ของ SSF โดยล่าสุดเหลือ 2.17 ล้านสัญญาจะใกล้ๆ ฐาน 2 ล้านสัญญามากแล้ว ซึ่งเป็นระดับที่มีนัยฯ มักเป็นจุดเด้งฟื้นตัว 3 ใน 4 รอบหลังสุด และฟื้นตัวทุกรอบ จากจุดต่ำสุดในแต่ละรอบเฉลี่ยราว 7.8% ด้วยระยะเวลาเฉลี่ย 36 วันทำการ (หากไม่นับรอบ Covid -19)

ทั้งนี้ในเชิงกลยุทธ์มอง SET ระดับปัจจุบันเป็นจุดทยอยสะสมหุ้น คาด SET ใกล้ๆจุดฟื้นตัว แนะกลุ่มที่มีโอกาสให้ผลตอบแทนเด่นกว่าตลาด โดยเน้นกลุ่มที่ลงแรงตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันโดยในกลุ่ม SET50 และ SET100 อาทิ GPSC, IVL, SCGP, PTTGC,GULF,TOP,CPALL, KBANK, STEC, DOHOME และ AP และเมื่อเปรียบเทียบราคาเป้าหมายกับราคาหุ้นล่าสุด 1 พ.ย.6666 พบว่ามีอัพไซด์สูง อาทิ GPSC ราคาหุ้นปรับลดลง 47% แนะนำราคาเป้าหมาย 65 บาท หรือคิดเป็นอัพไซด์ 65% จากราคาล่าสุด 39.25 บาท ณ 1 พ.ย.66 ด้าน GULF ราคาหุ้นปรับลดลง 23% ราคาเป้าหมาย 50.00 บาท หรือคิดเป็นอัพไซด์ 12% จากราคาล่าสุด 44.50 บาท ณ 1 พ.ย.66

ส่วน GUNKUL แนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2566 ของบริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GUNKUL มองว่าด้วยกระแสลมที่ค่อนข้างแรงในไตรมาส 3 ใกล้เคียงกับปี 2562 ที่ผลประกอบการดี เบื้องต้นมองเฉพาะกำไรปกติไตรมาส 3/2566 คาดว่าจะเพิ่ม ทั้งไตรมาส 3/2565 ที่มีรายได้รวม 3,335 ล้านบาท และไตรมาส 2/2566 มีรายได้รวม 1,803 ล้านบาท และล่าสุดปริมาณงานในมือ (Backlog) ธุรกิจก่อสร้าง (EPC) ที่เพิ่มขึ้นมาสู่ระดับกว่า 6,000 ล้านบาท ทำให้ยังคงมอง GUNKUL ในเชิงบวกภายใต้ราคาที่รับรู้ข่าวร้ายมามากแล้ว ทั้งนี้แนะนำ “ซื้อ” GUNKUL ที่ราคาเป้าหมายปีนี้ 4.40 บาท หรือคิดเป็นอัพไซด์ 77% (จากราคาล่าสุด 2.48 บาท ณ 1 พ.ย.66) 

นอกจากนี้ราคาหุ้นราคาหุ้น GUNKUL ปรับตัวเพิ่มขึ้นแรงวันนี้ หลังมีมติอนุมัติโครงการซื้อหุ้นสามัญคืน (Treasury Stock) เพื่อบริหารทางการเงิน ครั้งที่ 3 ในวงเงินสูงสุดที่ใช้ในการซื้อหุ้นคืน ไม่เกิน 1,120 ล้านบาท จำนวนหุ้นที่จะซื้อคืนสูงสุด ไม่เกิน 380 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท หรือคิดเป็น 4.28% ของทุนที่ออกและชำระแล้ว โดยเสนอซื้อจากผู้ถือหุ้นเป็นการทั่วไปในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กำหนดระยะเวลาที่จะซื้อหุ้นคืนตั้งแต่วันที่ 16 พ.ย. 66 ถึง 15 พ.ค. 67