WHA-TU-CENTEL กอดคอเด้ง! ลุ้นเข้าดัชนี MSCI รอบใหม่ 14 พ.ย.นี้

ลุ้น MSCI ประกาศรายชื่อหุ้นเข้าใหม่ 14 พ.ย.นี้ นำโดย WHA, TU  และ CENTEL กองทุนต่างชาติจ่อลุย มีผลราคาปิด วันที่ 30 พ.ย. 66 นี้ ล่าสุดทริสคงอันดับเครดิต “ดับบลิวเอชเอ” ที่ระดับ A- ไตรมาส 4/66 เตรียมขายสินทรัพย์เข้ากอง WHART เพิ่ม


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (2 พ.ย. 66) ณ เวลา 10:05 น. นำโดย บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA  ราคาหุ้นอยู่ที่ 5.00  บาท บวก 0.08 บาท หรือ 1.63% สูงสุดที่ระดับ 15.05 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 4.94 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 40.70 ล้านบาท

บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU ราคาหุ้นอยู่ที่ 13.60 บาท บวก 0.20 บาท หรือ 1.49% สูงสุดที่ระดับ 13.60 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 13.50 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 9.10 ล้านบาท

บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL ราคาหุ้นอยู่ที่ 46.00 บาท บวก 0.50 บาท หรือ 1.10% สูงสุดที่ระดับ 46.50 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 46.00 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 8.54 ล้านบาท

สำหรับราคา WHA-TU-CENTEL ต่างปรับตัวขึ้นนั้น เชื่อว่ามีโอกาสเข้าคำนวณในดัชนี MSCI ที่จะประกาศรายชื่อหุ้นเข้าใหม่ที่มีผลราคาปิดวันที่ 30 พ.ย. 66 นี้

ด้านนายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน จำกัด เปิดเผยว่าวันที่ 14 พ.ย.นี้ MSCI Rebalance จะประกาศรายชื่อหุ้นไทยเข้าสู่ดัชนี MSCI รอบนี้ โดยคาดว่าจะมีจำนวน 3 บริษัท หลังจากมาร์เก็ตแคปและฟรีโฟลตสูงขึ้นช่วงที่ผ่านมา ได้แก่  WHA, TU  และ CENTEL  ซึ่งคาดว่าจะเป็นเป้าหมายของกองทุน Passive Fund

ส่วนหุ้นที่เสี่ยงหลุด 4 บริษัท ได้แก่ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO, บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ RATCH, บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC และบริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM ทั้งนี้การ Rebalance จะมีผลราคาปิด วันที่ 30 พ.ย. 2566

นอกจากนี้ รายงานข้อมูลจาก Refinitiv consensus ประมาณการกำไรสุทธิไตรมาส 3/2566 ของ TU ที่ 1,186 ล้านบาท ราคาเป้าหมายเฉลี่ย 15.91 บาท จาก 14 โบรกเกอร์ โดยปัจจุบันมาร์เก็ตแคป อยู่ที่ 62,844.29 ล้านบาท

สำหรับประมาณการกำไรสุทธิไตรมาสที่ 3/2566 ของ WHA ที่ 786.43 ล้านบาท ราคาเป้าหมายเฉลี่ย 5.78 บาท จาก 9 โบรกเกอร์  มาร์เก็ตแคป อยู่ที่ 74,734.17 ล้านบาท

ขณะที่ประมาณการกำไรสุทธิไตรมาสที่ 3/2566 ของ CENTEL ที่ 157.38  ล้านบาท ราคาเป้าหมายเฉลี่ย 52.48 บาท จาก 13 โบรกเกอร์ โดยปัจจุบันมาร์เก็ตแคป อยู่ที่ 60,750 ล้านบาท

ทริสให้เครดิต WHA ระดับ A-

นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม  บมจ.ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น (WHA) เปิดเผยว่า ล่าสุด ทริสเรทติ้ง ได้ประกาศคงอันดับเครดิตองค์กรของบริษัทฯ ที่ระดับ A- แนวโน้ม คงที่ สะท้อนถึงการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ยั่งยืนและแข็งแกร่งใน 4 กลุ่มธุรกิจหลักของบริษัท นอกจากนี้เครดิตองค์กรที่บริษัทฯ ได้รับยังแสดงให้เห็นถึงการมีวินัยทางการเงินการมีสภาพคล่องที่เพียงพอ ความยืดหยุ่นและการมีประสิทธิภาพในการบริหารทางการเงิน ส่งผลให้บริษัทมีฐานะทางการเงินที่มั่นคงจากการดำเนินงาน

รวมถึงจากการขายทรัพย์สินเข้ากองทรัสต์ และความสามารถของบริษัทฯ ในการจัดหาแหล่งเงินทุนต่าง ๆ ทั้งจากตลาดทุนและสถาบันการเงิน เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจในบริษัทฯ ที่ผ่านมาและตามแผนงานที่ได้วางไว้ในอนาคตอีกด้วย

สำหรับกลุ่มธุรกิจโลจิสติกส์มีผลประกอบการดีอย่างต่อเนื่อง มุ่งขยายการเติบโตให้ครอบคลุมทำเลยุทธศาสตร์สำคัญในประเทศไทยและเวียดนาม โดยเน้นไปที่อุตสาหกรรมที่มีการเติบโตสูง รวมถึงการสร้างพันธมิตรในระยะยาวเพื่อการพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน พร้อมนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมทางด้านดิจิทัลและแนวปฏิบัติเพื่อความยั่งยืนเข้ามาใช้ทั้งระบบ รวมถึงการพัฒนาระบบขนส่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ภายใต้แนวคิด Green Logistics พร้อมกับการสร้างความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนกับพันธมิตรทางธุรกิจในระยะยาว  และสำหรับ Office Solutions บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าขยายโครงการอาคารสำนักงานบนทำเลที่ดีเยี่ยม และเริ่มขยายสู่โครงการพาณิชยกรรมรูปแบบใหม่ ๆ เพิ่มเติม

ขณะที่กลุ่มธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม ยังคงตอกย้ำตำแหน่งการเป็นผู้นำด้านนิคมอุตสาหกรรมในประเทศไทย ที่สามารถดึงดูดนักลงทุนที่สำคัญระดับโลกได้หลากหลายและต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า โดยในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้เซ็นสัญญาซื้อขายที่ดินกว่า 250 ไร่ ต่อบริษัทยานยนต์ชั้นนำของจีน ซึ่งสะท้อนถึงศักยภาพและความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อบริษัท รวมถึงเป็นการส่งเสริมบทบาทของประเทศไทยในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าบนเวทีโลก นอกจากนี้บริษัทยังคงมุ่งขยายธุรกิจในเวียดนามให้เติบโตอย่างต่อเนื่องเช่นกัน

ด้านกลุ่มธุรกิจสาธารณูปโภค ในส่วนของธุรกิจน้ำยังคงเติบโตไปพร้อมกับกลุ่มธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม โดยมุ่งเน้นการเพิ่มผลิตภัณฑ์และโซลูชันให้มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลิตภัณฑ์น้ำมูลค่าเพิ่ม ตลอดจนหาโอกาสการขยายตลาดสู่ลูกค้าภายนอกนิคมอุตสาหกรรม

สำหรับธุรกิจไฟฟ้า บริษัทมุ่งมั่นที่จะขยายธุรกิจทั้งในประเทศไทย ประเทศเวียดนาม และขยายสู่ตลาดใหม่ในประเทศอื่น ๆ ควบคู่กับการนำนวัตกรรมและความยั่งยืนมาใช้ในการดำเนินธุรกิจ พร้อมทั้งการหาโอกาสใหม่ ๆ ทางธุรกิจเพื่อสร้าง New S-Curve อาทิ ระบบกักเก็บพลังงานแบบแบตเตอรี่ (BESS : Battery Energy Storage Systems) ไฮโดรเจนสีเขียว (Green Hydrogen) การซื้อขายคาร์บอนเครดิต (Carbon Credit) และเทคโนโลยีการดักจับ การใช้ประโยชน์ และการกักเก็บคาร์บอน (Carbon Capture, Utilization and Storage : CCUS)

ส่วนธุรกิจดิจิทัลยังคงเป็นผู้นำในการทรานส์ฟอร์มสู่ดิจิทัลภายในองค์กร โดยช่วยเสริมสร้างศักยภาพการดำเนินธุรกิจเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเข้าถึง ความปลอดภัยด้านดิจิทัล รวมถึงการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางธุรกิจ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างครบวงจร และการนำเทคโนโลยีมาสร้างผลิตภัณฑ์และบริการมูลค่าเพิ่ม พร้อมทั้งยังมองหาโอกาสในการต่อยอดธุรกิจเพิ่มเติม อาทิ การพัฒนาแอปพลิเคชัน WHAbit โซลูชันสำหรับดิจิทัลเฮลธ์เทค การพัฒนาแดชบอร์ดแสดงผลการทำงานของแผงพลังงานแสงอาทิตย์และอุปกรณ์ตรวจวัดประสิทธิภาพการทำงานของแผง รวมไปถึงเครื่องมือวิเคราะห์ ระบบอัตโนมัติและอุปกรณ์อัจฉริยะต่าง ๆ ที่ใช้ในระบบจัดส่งน้ำ ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกับ 3 กลุ่มธุรกิจ ของดับบลิวเอชเอ กรุ๊ปเพื่อเสริมความแข็งแกร่งรองรับการเติบโตอย่างยั่งยืนของกลุ่มบริษัท

นอกจากนี้บริษัทเตรียมแผนการขายทรัพย์สิน เข้ากองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยม โกรท (กองทรัสต์ WHART) ภายในไตรมาส 4/66 ซึ่งคาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้ตามแผนและเป้าหมายที่วางไว้

Back to top button