BJC ร่วง 7% หลังกำไร Q3 วูบ 25% เหลือ 693 ล้าน
BJC ร่วง 7% หลังกำไรไตรมาส 3/66 ลดลง 25% เหลือ 693.27 ล้านบาท จากไตรมาส 3/65 อยู่ที่ 932.35 ล้านบาท เหตุต้นทุนขาย-ค่าใช้จ่ายบริหารพุ่ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(9 พ.ย.66) บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BJC ณ 10 :44 น. อยู่ที่ระดับ 27.50 บาท ลบ 2.25 บาท หรือ 7.56% ราคาต่ำสุด 27.00 บาท ราคาสูงสุด 28.25 บาท โดยราคาหุ้นปรับตัวลงแรงต่ำสุดของวันที่ระดับ 0.77 บาท (ฟลอร์) ด้วยมูลค่าซื้อขาย 100.91 ล้านบาท
โดยบริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BJC รายงานผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3/66 และงวด 9 เดือนแรกของปี 66 มีกำไรสุทธิ ดังนี้
สำหรับกำไรปรับลดลงเนื่องจากบริษัทรายงานค่าใช้จ่ายรวมในไตรมาส 3/66 เท่ากับ 40,008 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 987 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 2.5 เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยการเพิ่มขึ้นมีสาเหตุหลักมาจาก 1.ต้นทุนขายที่เพิ่มขึ้นจากยอดขายที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ จากที่ได้มีการจัดทำโครงการเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุนต่างๆ ส่งผลให้ อัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้นในทุกๆกลุ่มสินค้าและบริการ
2.ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่เพิ่มขึ้น สาเหตุหลักมาจากการขยายสาขา และค่าไฟฟ้าที่สูงขึ้น ของกลุ่มสินค้าและบริการทางการค้าปลีกสมัยใหม่ เนื่องจากอัตรา FT ที่ปรับตัวสูงขึ้นจากปีก่อน และ3.ต้นทุนทางการเงินที่เพิ่มขึ้น จากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น
ด้าน บล.กสิกรไทย ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ว่า กำไรไตรมาส 3/66 ต่ำกว่าที่คาดการณ์ โดยอยู่ที่ 693 ล้านบาท ลดลง 25.6% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ลดลง 42.7% เทียบไตรมาสก่อนหน้า ต่ำกว่าประมาณการของเรา 12% และตลาดถึง 38% จากค่าใช้จ่าย SG&A และภาษีSSSG ที่ 2.1% ในไตรมาส 3/66 (เทียบ 4.8% ในไตรมาส 2/66) ได้แรงหนุนจาก SSSG ที่เป็นบวกของไฮเปอร์มาร์เก็ตและ BigC Mini แต่เป็นลบสำหรับซุปเปอรมาร์เก็ต ผลการดำเนินงานโดยรวมจากธุรกิจการผลิตฟื้นตัวเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และเทียบไตรมาสก่อนหน้าจาก GPM ที่เพิ่มขึ้นจากต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลง เนื่องจากยอดขายลดลง