MASTER บวกต่อ 5% โบรกแนะ “ซื้อ” เป้า 99 บ. หลังกำไร Q3 “นิวไฮ” เฉียด 100 ล้าน

MASTER บวกต่อ 5% โบรกแนะ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 99 บาท หลังกำไรไตรมาส 3/66 โต 17% เฉียด 100 ล้านบาท รับรายได้ศัลยกรรม-ห้องผ่าตัดเพิ่ม ลุ้นไตรมาส 4/66 โตต่อ รับไฮซีซั่น ดันกำไรทั้งปีแตะ 414 ล้านบาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (6 พ.ย.66) ราคาหุ้น บริษัท มาสเตอร์ สไตล์ จำกัด (มหาชน) หรือ MASTER  ณ เวลา 11:28 น. อยู่ที่ระดับ 49.75 บาท บวก 2.25 บาท หรือ 4.74% สูงสุดที่ระดับ 50.50 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 48.25 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 112.86 ล้านบาท

บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยผ่านบทวิเคราะห์ของ MASTER ว่า หลังจาก MASTER รายงานผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/2566 โดยมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 99.80 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.27% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 23% จากไตรมาสก่อนหน้า ถือว่าเป็นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จาก 1) รายได้รวมขยายตัว 19% จากงวดเดียวกันของปีก่อน หรือเพิ่มขึ้น 4% จากไตรมาสก่อนหน้า เป็นผลมาจากรายได้ที่ขยายตัวในทุกแผนก โดยเฉพาะศัลยกรรมจากจำนวนห้องผ่าตัดใหญ่ที่เพิ่มขึ้นจาก 7 ห้องเป็น 17 ห้อง

2) GPM ทรงตัวจากงวดเดียวกันของปีก่อน แต่เพิ่มขึ้นจ่ากไตรมาสก่อนหน้า และ 3) SG&A to sales ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน จากค่าใช้จ่ายพนักงานที่เพิ่มขึ้น แต่ลดลง จากไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากการควบคุมค่าใช้จ่ายทางการตลาดที่ดี

โดยฝ่ายวิเคราะห์ประเมินกำไรปี 2566-2567 เติบโตสูงต่อเนื่อง เนื่องจากกำไรสุทธิในงวด 9 เดือนแรกของปี 2566 มีสัดส่วนที่ 61% ของประมาณการกำไรปี 2566 โดยคาดการณ์กำไรสุทธิไตรมาส 4/2566 จะขยายตัวทั้งจากไตรมาสก่อนหน้าและงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น (high season) และพื้นที่การใช้ห้องผ่าตัดขยายตัว ( OR utilization rate)

ดังนั้น จึงประเมินกำไรสุทธิปี 2566 อยู่ที่ 414 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38% จากไตรมาสก่อนหน้า ขณะที่ปี 2567 คาดการณ์กำไรสุทธิอยู่ที่ 579 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40% จากไตรมาสก่อนหน้า จาก 1) การรับรู้จำนวนห้องผ่าตัดใหม่ (new OR capacity) เต็มปี, 2) GPM เพิ่มขึ้นจากพื้นที่ให้บริการ (utilization rate) ที่ดีขึ้น และ 3) รับรู้ส่วนแบ่งกำไรจาก Wind Clinic และ KIN เต็มปี

ทั้งนี้ ฝ่ายวิเคราะห์คงคำแนะนำ “ซื้อ” โดยคงราคาเป้าหมายที่ 99.00 บาทในปี 2567 PER 45.0 เท่า (ใกล้เคียงกับ PER เฉลี่ยตั้งแต่เข้าเทรดในตลาด) และมีมุมมองในเชิงบวกต่อ MASTER จาก 5 ปัจจัยหลัก ดังนี้ 1) เป็นธุรกิจที่เกาะเทรนด์เติบโตของอุตสาหกรรมความงาม, 2) เป็นโรงพยาบาลศัลยกรรม Top 5 ของไทย อีกทั้งยังเป็น Healthcare business platform ที่ครบวงจร, 3) unlock capacity หนุนการเติบโตระยะยาว โดยคาดการณ์ในปี 2567 จะมีพื้นที่ให้บริการเพิ่มขึ้น 144% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน, 4) มี ค่า EPS CAGR ในปี 2566-2567 สูงถึง 39% และ 5) มีอัพไซด์เพิ่มจาก M&A ดีล และยังคาดการณ์ว่าจะปิดดีลเพิ่มอีก 5 ดีล

Back to top button