ปปง.อายัดทรัพย์ก๊วนหุ้น STARK “ชนินทร์-ยสบวร-ศรัทธา” 439 ล. แต่ไร้ชื่อ “วนรัชต์”
สำนักงาน ป.ป.ง. ออกประกาศอายัดก๊วนโกงหุ้น STARK “ชนินทร์-ยสบวร-ศรัทธา” รวม 439 ล้านบาท แต่ยังไร้ชื่อ “วนรัชต์ ตั้งคารวคุณ” หลังตกเป็นผู้ต้องหาในคดีด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ได้ประกาศ คำสั่งคณะกรรมการธุรกรรม ที่ ย.222/2566 เรื่องยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว หลังสำนักงาน ปปง. ได้รับรายงาน จากกองคดีการเงินการธนาคารและการฟอกเงิน กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตามหนังสือที่ ยธ .805/618 ลงวันที่ 27 มิถุนายน 2566 เรื่อง ส่งแบบรายงานตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการประสานงาน ในการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 พ.ศ. 2554 ข้อ 4 ซึ่งเป็นกรณีมีพฤติการณ์แห่งการกระทำความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาขนตามประมวลกฎหมายอาญา และความผิดเกี่ยวกับการยักยอกตามประมวลกฎหมายอาญาอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ
หลัง สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) พบพยานหลักฐานเกี่ยวกับการลงข้อความเท็จ ทำบัญชีไม่ถูกต้อง ไม่เป็นปัจจุบัน หรือไม่ตรงต่อความเป็นจริงในบัญชีหรือเอกสาร ของบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK และบริษัทย่อย ในช่วงปี 2564 ถึงปี 2565 และการเปิดเผยข้อความอันเป็นเท็จในแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอชายตราสารหนี้และเร่งหนังสือชี้ขวน โดยเปิดเผยงบการเงินประจำปี 2564 ที่มีการตกแต่งบัญชีและปกปิดข้อความจริงซึ่งควรจะบอกให้แจ้งในแบบแสดงข้อมูลในส่วนสรุปข้อมูลสำคัญของตราสารหนี้ โดยเป็นการกระทำโดยทุจริตหลอกลวงและได้ไปซึ่งทรัพย์สิน จากประชาชนผู้ถูกหลอกลวง
สำนักงาน ก.ล.ต. จึงร้องทุกข์กล่าวโทษ นายชนินทร์ เย็นสุดใจ กับพวก ในความผิดตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ซึ่งต่อมากรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้มีการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานและรับไว้เป็นดีพิเศษที่ 57/2566 อันเข้าลักษณะเป็นความผิดมูลฐานตามมาตรา 3 (3) และ (18) แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2562และกรณีมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่า นายชนินทร์ เย็นสุดใจ กับพวก ได้ไปซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดดังกล่าว
ในการนี้ เพื่อประโยซน์ในการปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินในการประชุมคณะกรรมการธุรกรรม มีมติมอบหมายตรวจสอบธุรกรรมหรือทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด (เพิ่มติม) ในส่วนของนายชนินทร์ เย็นสุดใจ กับพวก หรือเป็นผู้ซึ่งเกี่ยวข้องหรือเคยเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับผู้กระทำความผิดมูลฐานหรือความผิดฐานฟอกเงิน
และจากการตรวจสอบข้อมูลการทำธุรกรรมหรือทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด รวมทั้งจากการรวบรวม พยานหลักฐานปรากฏว่าบุคคลตังกล่าวได้ไปซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด จำนวน 16 รายการ พร้อมดอกผล และเนื่องจากทรัพย์สินที่เกี่ยวกับกากระทำความผิดในคดีนี้ประกอบด้วยสังหาริมทรัพย์ประเภทเงินสด อันเป็นทรัพย์สินที่มีสภาพคล่อง สามารถปกบิด ซ่อนเร้น หรือโอนเปลี่ยนมือได้โดยง่าย และสังหาริมทรัพย์ประเภทเงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร เงินในบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์ และเงินและสินทรัพย์ดิจิทัลในบัญชีซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล อันเป็นทรัพย์สินที่สามารถโอน จำหน่าย ยักย้าย ปกปิด หรือซ่อนเร็นได้โดยง่าย หากมีได้มีการออกคำสั่งให้ยืดและอายัดทรัพย์สินดังกล่าวไว้ชั่วคราว เมื่อเจ้าของหรือผู้มีส่วนได้เสียหรือผู้มีสิทธิในทรัพย์สินดำเนินการโอน จำหน่าย ยักย้าย ปกปิด หรือซ่อนเร้นทรัพย์สินดังกล่าวไปเสีย และหากต่อมาศาลได้มีคำสั่งให้ ทรัพย์สินดังกล่าวตกเป็นของแผ่นติน สำนักงาน ปปง. อาจไม่สามารถติตตามทรัพย์สินดังกล่าวกลับคืนมาได้ จึงเป็นกรณีที่มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่านายชนินทร์ เย็นสุดใจ กับพวก ได้ไปซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด และอาจมีการโอน จำหน่าย ยักย้าย ปกปิด หรือช่อนเร้นทรัพย์สินดังกล่าว จึงได้การพิจารณาดำเนินการ และการควบคุมตรวจสอบการปฏิบัติงานของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2556 ข้อ 25 คณะกรรมการธุรกรรมจึงมีคำสั่งยึดและอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดไว้ชั่วคราว จำนวน 16 รายการ พร้อมดอกผลมีกำหนดไม่เกิน 90 วัน (เก้าสิบวัน) นับตั้งแต่วันที่คณะกรรมการธุรกรรมมีมติ กล่าวคือ นับตั้งแต่วันที่ 16 พฤศจิกายน 2566 ถึงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2567 โดยมีรายการทรัพย์สินที่ยึดและอายัดปรากฏ ตามบัญชีทรัพย์สินแนบท้ายคำสั่งนี้
ทั้งนี้ ให้รวมถึงเงินหรือทรัพย์สินที่ได้มาจากการจำหน่าย จ่าย โอนด้วยประการใดๆ ซึ่งทรัพย์สินดังกล่าวหรือสิทธิเรียกร้องหรือผลประโยชน์หรือดอกผลของเงินหรือทรัพย์สินดังกล่าวด้วย ในกรณีผู้ซึ่งถูกยึดและอายัตทรัพย์สินตามคำสั่งนี้หรือผู้มีส่วนได้เสียในทรัพย์สินดังกล่าว ประสงค์จะขอให้มีการเพิกถอนคำสั่งยึดและอายัดทรัพย์สินดังกล่าวนั้น ให้ยื่นคำขอเป็นหนังสือต่อเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินพร้อมด้วยหลักฐานที่เกี่ยวข้องที่แสดงว่าเงินหรือทรัพย์สินที่ถูกยึดและอายัดดังกล่าวนั้นมิใช่ทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่งเป็นหนังสือ
โดยคำสั่งแนบท้ายมี 16 รายการ คือ
- เงินสด 745,000 บาท นายรพีพัฒน์ เย็นสุดใจ
- เงินสด 1,000,000 บาท นายศรัทธา จันทรเศรษฐเลิศ
- เงินในบัญชีเงินฝาก ธนาคารกสิกรไทย สาขาสนามเป้า 9,135 บาท นายชนินทร์ เย็นสุดใจ
- เงินในบัญชีเงินฝาก ธนาคารกสิกรไทย สาขาถนนพัฒนาการ 20 469,303 บาท นายชนินทร์ เย็นสุดใจ
- เงินในบัญชีเงินฝาก ธนาคารกสิกรไทย สาขาถนนพัฒนาการ 20 4,194,138 บาท นางสาวยสบวร อำมฤต
- เงินในบัญชีเงินฝาก ธนาคารกสิกรไทย สาขาถนนพัฒนาการ 20 493,071 บาท นางสาวยสบวร อำมฤต
- เงินในบัญชีเงินฝาก ธนาคารกสิกรไทย สาขาถนนสาธร 12,486 บาท นายศรัทธา จันทรเศรษฐเลิศ
- เงินในบัญชีเงินฝาก ธนาคารกสิกรไทย สาขา เค พาร์ค ถนนสายไหม 1,046,455 บาท นายศรัทธา จันทรเศรษฐเลิศ
- เงินในบัญชีเงินฝาก ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาเพลินจิต 329,042 บาท นายศรัทธา จันทรเศรษฐเลิศ
- เงินในบัญชีเงินฝาก ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาเพลินจิต 46,031,366 บาท นายศรัทธา จันทรเศรษฐเลิศ
- เงินในบัญชีเงินฝาก ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาเพลินจิต 54,561,516 บาท นายศรัทธา จันทรเศรษฐเลิศ
- เงินในบัญชีเงินฝาก ธนาคารกรุงเทพ สาขาอาคารชินวัตร ทาวเวอร์ 3 121,845 บาท นายชลชาติ บุญเยี่ยมเยียน
- เงินในบัญชีเงินฝาก ธนาคารกสิกรไทย สาขาเซ็นทรัลพระราม3 266,769 บาท นายชลชาติ บุญเยี่ยมเยียน
- เงินในบัญชีเงินฝาก ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาลาดพร้าวซอย 10 20,680,251 บาท นายชลชาติ บุญเยี่ยมเยียน
- เงินลงทุนและหลักทรัพย์ 218,420,937 บาท นายชนินทร์ เย็นสุดใจ
- เงินและสินทรัพย์ดิจิทัล 1,551,810 บาท นางสาวยสบวร อำมฤต
รวมทรัพย์สินทั้งสิ้น 16 รายการ รวมราคาประเมิน 349,933,130 บาท
อย่างไรก็ตามทรัพย์สินที่สำนักงาน ป.ป.ง.สั่งอายัดเป็นส่วนหนึ่งของผู้ต้องหาในคดี STARK ที่ยังไม่รวมถึงนาย “วนรัชต์ ตั้งคารวคุณ” อดีตผู้บริหาร STARK และนิติบุคคลอื่นๆที่เกี่ยวข้องในคดีนี้