DSI สอบเครียด “สมนึก กยาวัฒนกิจ” หลังพบเอี่ยวคดีหมูเถื่อน 40 ตู้
ดีเอสไอ เผย “สมนึก กยาวัฒนกิจ” เข้าให้การแล้ว หลังตรวจสอบเส้นทางมีเอี่ยว คดีหมูเถื่อน 40 ตู้ เบื้องต้นยังอยู่ในระหว่างสอบปากคำ ส่วนข้าราชการที่พัวพันมีมากกว่า 10 ราย จ่อส่งป.ป.ช.ฟันเอาผิด
วันที่ 24 พ.ย. 66 พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวว่า ความคืบหน้าของคดีพิเศษที่ 59/2566 กรณีขบวนการนำเข้าสินค้าประเภทซากสัตว์ (สุกร) เข้ามาในราชอาณาจักร โดยมิชอบด้วยกฎหมาย จำนวน 161 ตู้ ปริมาณ 4,025 ตัน ซึ่งจากการสอบสวนล่าสุดพบว่ามีข้าราชการนายทุน ข้าราชการการเมือง และอดีตข้าราชการเข้ามาเกี่ยวข้องในการนำเข้าหมูเถื่อนเข้ามาในประเทศ โดยตรวจพบว่ามีข้าราชการที่เกี่ยวข้องมากกว่า 10 ราย ส่วนกรณีของนายสมนึก กยาวัฒนกิจ กรรมการผู้มีอำนาจลงนามของบริษัท เรนโบว์ กรุ๊ป จำกัด ที่เข้ามารับทราบข้อกล่าวหาในมาตรา 243 และมาตรา 244 รวมกันกันลักลอบนำเข้าซากสัตว์ (สุกร) เข้าในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบปากคำ เบื้องต้นยังไม่มีการรับสารภาพ หรือปฏิเสธข้อกล่าวหา
ทั้งนี้ นายสมนึก จากตรวจสอบพบว่าเป็นกรรมการของบริษัทชิปปิ้ง ที่ตรวจพบเนื้อหมูเถื่อน 1 ตู้ แต่ตรวจสอบย้อนหลังพบว่ามีการนำเข้ามาอีกกว่า 40 ตู้ โดย นายสมนึก ได้เข้ามาเป็น กรรมการบริษัทช่วงปลายปี 2565 ซึ่งทางพนักงานสอบสวนได้มีการอนุมัติหมายจับตามฐานความผิด โดยนายสมนึกก็จะต้องให้ชี้แจงข้อเท็จจริงต่อไป โดยพบมีการร่วมกระทำกับกรรมการอีก 1 ราย อย่างไรก็ดีขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการให้ปากคำกับทางดีเอสไอ
สำหรับในส่วนของข้าราชการที่เกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าว ก็ได้ส่งสำนวนไปยังสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ขณะเดียวกันทางดีเอสไอ ก็มีความพร้อมหากป.ป.ช.ส่งสำนวนมาให้ดีเอสไอ ดำเนินการต่อ ซึ่งในตอนนี้มีการแยกสำนวนออกมาอีก 9 สำนวน เป็น 10 บริษัทที่นำเข้าหมูเถื่อน แต่ 9 บริษัทไม่พบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง นอกจากนี้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับราชการหรือไม่ ตรงนี้ไม่สามารถตอบได้เพราะอยู่ในสำนวนคดี แต่มีมากกว่า 10 ราย
ส่วนประเด็นที่นายกรัฐมนตรีได้ขีดเส้นตายให้ดำเนินการแล้วเสร็จภายในสัปดาห์หน้า ทางดีเอสไอได้ส่งสำนวนที่มีเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้อง 1 สำนวน ต่อ ป.ป.ช. ส่วนที่จะดำเนินการถัดไปคือ 2,385 ตู้ โดยจะรวบรวมพยานหลักฐานที่มีการสำแดงเท็จเป็นเนื้อปลาแช่เเข็ง พลาสติกพอลิเมอร์ต่างๆ แทนการสำแดงเป็นเนื้อหมูแช่แข็ง ยืนยันว่าดำเนินการรวดเร็ว นอกจากนี้ ตนเองจะเดินทางไปศาลอาญาเพื่อขอออกหมายค้นอีก 2 บริษัท เพื่อรวบรวมหลักฐาน และภายในสัปดาห์จะเห็นชัดเจนยิ่งขึ้น
รายงานข่างแจ้งว่า “นายสมนึก กยาวัฒนกิจ” ได้เข้ามาให้ปากคำกับดีเอสไอตั้งแต่ช่วงเช้า จนกระทั่งในช่วงบ่ายก็ยังให้การไม่เสร็จ โดยนายสมนึกนั้น คาดว่าจะเกี่ยวข้องกับขบวนการหมูเถื่อนที่อยู่ในกลุ่มนายทุน โดยเป็นกลุ่มนายทุนหรือผู้จ้างวานบริษัทชิปปิ้ง นำเข้าหมูเถื่อน คล้ายกับสองพ่อลูกที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้.