KLINIQ บวกต่อ 3% ลุ้นกำไร Q4 นิวไฮ รับยอดลูกค้าเพิ่ม-สาขาใหม่หนุน โบรกชูเป้า 46.50 บ.
KLINIQ บวกต่อ 3% ลุ้นกำไรไตรมาส 4/66 นิวไฮ รับยอดลูกค้าเพิ่ม-เปิดสาขาใหม่หนุน หนุนกำไรทั้งปี 66 แตะ 287 ล้านบาท จ่อรับรู้กำไรศูนย์ศัลยกรรมปี 67 ฟากโบรกแนะ “ซื้อ” ราคาเป้า 46.50 บาท ชูอัพไซด์ 26.5%
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (1 ธ.ค. 66) ราคาหุ้น บริษัท เดอะคลีนิกค์ คลินิกเวชกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ KLINIQ ณ เวลา 11:29 น. อยู่ที่ระดับ 38.00 บาท บวก 1.25 บาท หรือ 3.40% สูงสุดที่ระดับ 38.25 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 36.75 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 33.38 ล้านบาท
บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด ระบุผ่านบทวิเคราะห์วันนี้ (1 ธ.ค. 66) ว่า แนวโน้มกำไรงวดไตรมาส 4/66 อยู่ที่ 76 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.1% จากไตรมาสก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 25.1% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดยคาดการณ์กำไรสุทธิจะทำสถิติสูงสุด (New High) ทั้งนี้ มองว่ามาจากรายได้จากการขายและบริการจำนวน 636 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.6% จากไตรมาสก่อนหน้า และเติบโตขึ้น 29.4% จากงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากจำนวนผู้ใช้บริการที่เพิ่มขึ้น การกลับมาเปิดดำเนินการของแบรนด์ THE KLINIQUE สาขาเดอะมอลล์บางกะปิ และเดอะมอลล์บางแคที่ปิดปรับปรุงในงวดก่อนหน้า รวมถึงการเปิดสาขาใหม่จำนวน 4 สาขา โดยคาดการณ์ว่าศูนย์ศัลยกรรมจะถึงจุดคุ้มทุน (Break-Even Point)
นอกจากนี้ ยังประมาณการกำไรสุทธิปี 2566 ที่ 287 ล้านบาท เติบโต 39.5% จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยคาดการณ์รายได้จำนวน 2,276 ล้านบาท เติบโต 38.9% จากงวดเดียวกันของปีก่อน จากคาดการณ์ว่าในปี 2566 บริษัทเปิดสาขาใหม่ทั้งสิ้นจำนวน 14 สาขา รวมเป็น 54 สาขา จากสิ้นปี 2565 ที่มีจำนวนทั้งสิ้น 40 สาขา โดยใช้เงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้น IPO ราว 1,420 ล้านบาท ในการขยายกิจการ และการลงทุนในซื้อเครื่องมือทางการแพทย์
ขณะที่ประมาณการกำไรสุทธิปี 2567 ที่ 365 ล้านบาท เติบโต 27.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ทำระดับสูงสุดใหม่ โดยคาดการณ์ว่าจะมีรายได้จำนวน 3,046 ล้านบาท เติบโต 33.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการเติบโตของยอดขายสาขาเดิมที่มีจานวน 54 สาขา และการเติบโตจากการเปิดสาขาใหม่จำนวน 15 สาขา แบ่งเป็นแบรนด์ THE KLINIQUE 8 สาขา และ L.A.B.X 7 สาขา ประกอบกับการเติบโตของรายได้ศูนย์ศัลยกรรม ที่โดดเด่นในเรื่องการทำหน้าอก และการทำจมูก รวมถึงการให้บริการศัลยกรรมใหม่ๆ เพิ่มเติม เช่น การยุบโหนก ตัดกราม (Bone Surgery) โดยคาดการณ์ว่าศูนย์ศัลยกรรมจะเริ่มรับรู้กำไรตั้งแต่ไตรมาส 1/2567
ทั้งนี้ ฝ่ายวิเคราะห์แนะนำ “ซื้อ” มูลค่าราคาเหมาะสมปี 2567 ที่ 46.50 บาท โดยมุมมองบวกต่อผลการดำเนินงานในอนาคตของบริษัท เนื่องจากธุรกิจของบริษัทอยู่ในอุตสาหกรรมที่เติบโต โดยในปี 2564-2573 เติบโตเฉลี่ย (CAGR) 10% ต่อปี และประเมินราคาเหมาะสมด้วยวิธี PEG Ratio ที่ 1 เท่า เพื่อสะท้อนถึงการเติบโตของผลประกอบการ โดยคาดการณ์ว่ากำไรปี 2567 จะเติบโต 27.4% จากไตรมาสก่อนหน้า และคาดการณ์กำไรต่อหุ้นปี 67 เท่ากับ 1.66 บาทต่อหุ้น ราคาเหมาะสมมีอัพไซต์จากราคาปัจจุบันราว 26.5% ขณะที่คาดการณ์อัตราผลตอบแทนเงินปันผล (Dividend Yield) ในอนาคตราว 2.0% ต่อปี