บริษัท“ชิปปิ้ง”หมูเถื่อนรายใหญ่ 41 ตู้ ตบเท้ารายงานตัวดีเอสไอ

บริษัท “ชิปปิ้ง” หมูเถื่อนรายใหญ่เข้ารายงานตัวดีเอสไอ หลังพบมีส่วนร่วมนำเข้ามากถึง 41 ตู้ เงินหมุนเวียนหลักพันล้านบาท


วันที่ 1 ธ.ค. 66 ที่ศูนย์ราชการฯ อาคารเอ ชั้น 2 ห้องประชุมพนักงานสอบสวนคดีหมูเถื่อน ถ.แจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ ภายหลังจากที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ นำโดย พ.ต.ต.ณฐพล ดิษฐธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม และในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีหมูเถื่อน ภายใต้การกำกับดูแลสำนวนของ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และในฐานะรักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้มีการขยายผลในคดีหมูเถื่อน จำนวน 161 ตู้ มาอย่างต่อเนื่อง

กระทั่งสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหากลุ่มบริษัทชิปปิ้งเอกชนได้ทั้งสิ้น 10 ราย และอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเตรียมขอศาลออกหมายจับอีก 2 บริษัท (1 กรรมการผู้มีอำนาจลงนาม) เนื่องจากพบว่าทั้งสองแห่งนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเข้าตู้หมูเถื่อน รวม 41 ตู้ มีเงินหมุนเวียนหลักพันล้านบาท และกรรมการรายนี้ยังเกี่ยวข้องกับข้าราชการฝ่ายการเมือง อักษรย่อ ป.

ต่อมาเวลา 10.00 น. นายบริบูรณ์ กรรมการผู้มีอำนาจลงนามของทั้ง 2 บริษัทดังกล่าว พร้อมด้วยทีมฝ่ายกฎหมาย เดินทางเข้าพบ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษฐธรรม หัวหน้าพนักงานสอบสวน และคณะฯ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ และให้ปากคำชี้แจงถึงการนำเข้าตู้หมูเถื่อน เนื่องจากตามรายงานระบุว่า นายบริบูรณ์ รับหน้าที่เป็นทั้งบริษัทชิปปิ้งเอกชนและนายทุน อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากที่เข้าให้ปากคำเสร็จสิ้น พนักงานสอบสวนเตรียมแจ้งข้อหา ในความผิดฐานนำของผ่านหรือกำลังผ่านพิธีการศุลกากรเข้ามาในราชอาณาจักรโดยหลีกเลี่ยงข้อจำกัดเกี่ยวกับของนั้น ตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560 และความผิดฐานนำเข้า ส่งออกหรือนำผ่านราชอาณาจักรซึ่งสัตว์หรือซากสัตว์โดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558

ทั้งนี้ คณะพนักงานสอบสวน นำโดย พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีดีเอสไอ และในฐานะรักษาราชการแทนอธิบดีดีเอสไอ ยังอยู่ระหว่างการสอบปากคำนายบริบูรณ์ และตรวจสอบวัตถุพยานเอกสารที่เกี่ยวข้อง

Back to top button