TRUBB นำทีมบวก! หลังรัฐยันกฎหมาย “EUDR” ไร้กระทบยางพาราไทย

4 หุ้นยางบวก! นำโดย TRUBB- TEGH- STA- NER ตอบรับข่าวสหภาพ EU ออกกฎหมายสินค้าปลอดการตัดไม้ทำลายป่า โดยรัฐบาลเชื่อมั่นว่าไม่กระทบไทย พร้อมมุ่งเป้าตั้งไทยเป็นศูนย์กลางตลาดยางพารา ดันส่งออกปีละ 2.5 - 3 ล้านตัน


ผู้สื่อข่าวรายงาน (20 ธ.ค.66) ว่า ณ เวลา 16:00 น. หุ้นกลุ่มยางปรับตัวขึ้นมาได้เล็กน้อย ตอบรับข่าวรัฐบาลมั่นใจกฎหมายสินค้าปลอดการทำลายป่าของ EU ไม่กระทบยางพาราไทย นำโดย บริษัท ไทยรับเบอร์ลาเท็คซ์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TRUBB อยู่ที่ระดับ 1.19 บาท บวก 0.01 บาท หรือ 0.85% สูงสุดที่ระดับ 1.22 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 1.18 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 0.47 ล้านบาท

บริษัท ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TEGH อยู่ที่ระดับ 2.46 บาท บวก 0.02 บาท หรือ 0.82% สูงสุดที่ระดับ 2.50 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 2.42 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 0.57 ล้านบาท

บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ STA อยู่ที่ระดับ 14.90 บาท บวก 0.10 บาท หรือ 0.68% สูงสุดที่ระดับ 15.30 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 14.70 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 66.79 ล้านบาท

บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NER อยู่ที่ระดับ 4.66 บาท บวก 0.02 บาท หรือ 0.43% สูงสุดที่ระดับ 4.70 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 4.64 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 11.39 ล้านบาท

นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ผู้แทนการค้าไทย เปิดเผยว่า ตามที่สหภาพยุโรป (EU) เตรียมใช้กฎหมาย EU Deforestation-free Products Regulation (EUDR) ซึ่งมีสาระสำคัญอยู่ที่สินค้าที่ปลอดจากการตัดไม้ทำลายป่า การนำเข้ายางและผลิตภัณฑ์จากยาง จะต้องมาจากสวนยางที่มีเอกสารสิทธิ์ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่อยู่ในพื้นที่ต้นน้ำ พื้นที่อนุรักษ์ และพื้นที่ป่า รวมถึงการจัดการสวนยางพารา ที่ต้องเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และไม่ส่งผลกระทบต่อสังคม ถือเป็นโอกาสที่ดีในการที่จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางการค้าระดับโลก และเชื่อมั่นว่าจะไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย

โดยหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ และการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ได้ร่วมหารือกับหน่วยงานของสหภาพยุโรป ในการผลักดันมาตรการต่าง ๆ เพื่อให้ยางพาราและผลิตภัณฑ์ยางของไทยสามารถส่งออกได้ตามมาตรฐาน สร้างรายได้ และเพิ่มราคาให้กับชาวสวนยางของไทย พร้อมตั้งเป้าให้ไทยเป็นศูนย์กลางตลาดยางพารา ผลักดันการส่งออกยางพาราปีละ 2.5 – 3 ล้านตัน

การขับเคลื่อนการทำงานให้เกิดประสิทธิภาพ จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน เกษตรกร และสถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล หารือและสร้างแนวทางขับเคลื่อนไปด้วยกัน โดยเฉพาะแนวทางบริหารจัดการพื้นที่ปลูกยาง รวมถึงการตลาด เพื่อประโยชน์ต่อชาวสวนยาง รัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุน โดยจะนำปัญหา และข้อเสนอแนะไปดำเนินการ รวมถึงการจัดตั้งคณะกรรมการเพื่อขับเคลื่อนการทำงานให้เกิดผลเป็นรูปธรรม รองรับการประกาศใช้กฎหมาย EU Deforestation-free Products Regulation (EUDR) ของสหภาพยุโรป” นางนฤมล กล่าว

Back to top button