DTCENT พุ่งกระฉูด 25% นิวไฮรอบ 8 เดือน เก็ง Q4 โตต่อ มั่นใจผลงานปีนี้เข้าเป้า 15%
DTCENT พุ่งกระฉูด 25% นิวไฮรอบ 8 เดือน เก็งไตรมาส 4/66 โตต่อ ลุยเปิดศูนย์บริการและขายสินค้า GPS Tracking ครบ 8 แห่งภายในปีนี้ มั่นใจหนุนผลงานปีนี้โตเข้าเป้า 10-15%
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(26 ธ.ค.66) ราคาหุ้นบริษัท ดี.ที.ซี. เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) หรือ DTCENT ณ เวลา 10:56 น. อยู่ที่ระดับ 1.86 บาท บวก 0.37 บาท หรือ 24.83% ราคาสูงสุด 1.89 บาท ราคาต่ำสุด 1.49 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 62.34 ล้านบาท ราคาหุ้นนิวไฮในรอบ 8 เดือน โดยเทียบตั้งแต่หุ้นยืนที่ระดับ 1.87 บาท เมื่อวันที่ 24 เม.ย.66
โดยก่อนหน้านี้นายทศพล คุณะเพิ่มศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ DTCENT ผู้นำในการให้บริการระบบ GPS Tracking อันดับ 1 ในประเทศไทย (อ้างอิงจากข้อมูลกรมการขนส่งทางบกในเดือนมกราคม 2565) เปิดเผยว่า แนวโน้มการดำเนินธุรกิจในไตรมาส 4/2566 ยังมีทิศทางที่ดีต่อเนื่อง จากการเร่งเปิดศูนย์บริการสำหรับจำหน่าย ติดตั้ง และซ่อมบำรุงอุปกรณ์ GPS Tracking และกล้องติดรถอย่างครบวงจร ตามจังหวัดใหญ่ๆ ของประเทศ โดยตั้งเป้าหมายให้ครบ 8 แห่งภายในปีนี้ ซึ่งปัจจุบันได้เปิดให้บริการแล้ว 6 แห่ง ทั้ง กรุงเทพฯ เชียงใหม่ อุดรธานี ขอนแก่น อยุธยา นครสวรรค์ เพื่อให้เข้าถึงผู้ใช้บริการรถยนต์ส่วนบุคคลเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับในช่วงนี้ไปจนถึงปลายปีและต้นปีหน้า จะเกิดการเดินทางท่องเที่ยว และกลับภูมิลำเนาในช่วงสิ้นปี ซึ่งความต้องการใช้บริการระบบ GPS Tracking จะมีเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ส่งผลเชิงบวกให้กับบริษัทฯ และปัจจัยเหล่านี้ จะสนับสนุนให้บรรลุเป้าหมาย สามารถสร้างผลงานในปีนี้เติบโตได้ที่ระดับ 10-15% ตามแผนที่วางไว้
ขณะเดียวกันงานด้าน IoT Solution และ ระบบ AI รองรับการขยายโครงการของภาครัฐ และเทศบาลต่างๆ ล่าสุด บริษัทฯ ได้รับงานโครงการระบบ AI เพื่อบริหารจัดการเครื่องสูบน้ำ ของสำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร ส่วน BAMS (Business Activity Management System) ทดลองเปิดให้บริการบนเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟนเรียบร้อยแล้ว ในส่วนของระบบ BIM (Building Information Modeling), EV Platform, Logistics Demand-Supply Matching Platform คาดว่า จะเห็นความชัดเจนภายในปีนี้
ส่วนการลงทุนในภูมิภาคอาเซียนเป็นการนำโมเดล ระบบ GPS Tracking และ IoT Solution ร่วมกับพันธมิตรในต่างประเทศ ล่าสุด ได้ลงนามสัญญากับบริษัท สุดาพอนการค้า ขาเข้า-ขาออก และบริการ จำกัด และบริษัท พีทีแอล โฮลดิ้ง จำกัด เพื่อร่วมลงทุนจัดตั้ง บริษัท ดี.ที.ซี. ลาว จำกัด ที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ขณะนี้ อยู่ในขั้นตอนเตรียมจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท
สำหรับความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ ประกอบด้วย บริษัท ยาซากิ เอ็นเนอร์จี ซิสเท็ม คอร์ปอเรชั่น (YES) วางแผนที่จะพัฒนาให้บริษัทฯ เป็น Tier 1 Supplier ในงาน OEM สำหรับอุปกรณ์ GPS Tracking และ Telematics ให้กับบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ชั้นนำทั้งในประเทศและต่างประเทศ อาจจะต้องใช้เวลาในการพัฒนาสินค้าร่วมกัน และคาดว่า จะเห็นความชัดเจนภายในปีหน้าเพิ่มเติม ส่วนบริษัท บุญรอด ซัพพลายเชน จำกัด (BRS) ขณะนี้ร่วมวางแผนงานการดำเนินธุรกิจ ในด้านการวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics) และพัฒนาผลิตภัณฑ์ Supply Chain Solutions ใหม่ๆ เพื่อช่วยลดต้นทุน พร้อมเพิ่มช่องทางสร้างรายได้ รวมทั้งส่งเสริมประสิทธิภาพในการทำงานให้กับบริษัทฯมากขึ้น
อีกทั้ง DTCENT ร่วมกับบริษัท บุญรอด ซัพพลายเชน กำลังศึกษาการเข้าลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจหลัก ในรูปแบบการทำ M&A ในบริษัทที่มีผลการดำเนินงานที่เติบโตต่อเนื่อง คาดว่าจะมีความชัดเจนภายในปีหน้า
สำหรับผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3/2566 (สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2566) บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 43.93 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 196.82% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน มีกำไรสุทธิ 14.80 ล้านบาท และมีรายได้รวม 220.03 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41.85% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน มีรายได้รวม 155.11 ล้านบาท
ส่วนผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนปี 2566 มีกำไรสุทธิ 83.71 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 59.78% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน มีกำไรสุทธิ 52.39 ล้านบาท และมีรายได้รวม 558.63 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.45% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน มีรายได้รวม 479.72 ล้านบาท ปัจจัยหลักที่สนับสนุนให้มีรายได้และกำไรเพิ่มขึ้นมาจากรายได้จากการขายและให้บริการ ทั้งการใช้ระบบติดตามยานพาหนะ (GPS Tracking) และงานโครงการของภาครัฐ