“ครม.”เห็นชอบปรับเกณฑ์ “VAT Refund” ช่วยลดนักท่องเที่ยวต่อคิวขอคืนภาษี
“ครม.” มีมติเห็นชอบปรับเกณฑ์ “VAT Refund” ระบุเพื่อลดจำนวนนักท่องเที่ยว เข้าคิวขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม พร้อมปรับวงเงินสินค้าที่แสดงศุลกากร เป็น 2 หมื่นบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานวันนี้ (2 ม.ค 67) นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมครม. มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังได้เสนอเรื่องการปรับปรุงหลักเกณฑ์การตรวจสินค้าเพื่อขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มนักท่องเที่ยว หรือ (VAT Refund for Tourists) อีกทั้งลดปริมาณนักท่องเที่ยวที่ต้องเข้าคิวเพื่อแสดงสินค้าในกระบวนการขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม
ทั้งนี้วิธีการดำเนินการนั้นกรมสรรพากรได้ออกประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉ.254) เรื่องกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขให้ผู้ที่เดินทางออกไปนอกราชอาณาจักรที่ซื้อสินค้าจากผู้ประกอบการจดทะเบียนเพื่อนำออกไปนอกราชอาณาจักรขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มที่ถูกเรียกเก็บไว้แล้วได้ ตาม ม.84/4 แห่งป. รัษฎากร ลงวันที่ 27 พ.ย. 66 และให้มีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 2566
โดยการปรับเพิ่มวงเงินซื้อสินค้าที่ต้องแสดงต่อเจ้าพนักงานศุลกากรจากเดิมตั้งแต่ 5,000 บาทขึ้นไปเป็น 20,000 บาทขึ้นไป ซึ่งจะลดจำนวนนักท่องเที่ยวที่ต้องแสดงสินค้าลงจาก 120,000 แสนรายต่อปี เหลือประมาณ 30,000 รายต่อปี หรือลดลงประมาณร้อยละ 75
อีกทั้งการปรับเพิ่มมูลค่าสินค้าที่ต้องนำไปแสดงต่อเจ้าพนักงานสรรพากร 9 รายการ (Luxury Goods) อาทิเครื่องประดับ, ทองรูปพรรณ, นาฬิกา, แว่นตา, ปากกา, สมาร์ทโฟน, แล็ปท็อปหรือแท็บเล็ต และกระเป๋า (ไม่รวมกระเปาเดินทาง) เข็มขัด จากเดิมมูลค่าต่อชิ้นตั้งแต่ 10,000 บาทขึ้นไป เป็น 40,000 บาทขึ้นไป รวมไปถึงปรับเพิ่มมูลค่าของที่สามารถถือขึ้นเครื่องได้ (carry-on) จากเดิมมูลค่าต่อชิ้นตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไป เป็น 100,000 บาทขึ้นไป
“โดยในภาพรวมนั้นมาตรการดังกล่าวที่กระทรวงการคลังเสนอ จะส่งผลให้การจัดเก็บรายได้ภาษีสรรพสามิตและภาษีศุลกากรเพิ่มขึ้นสุทธิประมาณ 401 ล้านบาทต่อปี อีกทั้ง GDP ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.0073” นายชัยกล่าว