CKP พุ่ง 7% โบรกแนะ “ซื้อ” อัพเป้าใหม่ 4.20 บ. จับตากำไร Q4/66 โตทะลัก 70%
CKP บวกต่อ 7% ลุ้นกำไรไตรมาส 4/66 โต 70% แตะ 476 ล้านบาท หลังผลิตไฟฟ้าได้มากกว่าคาดจากมรสุมที่มาช้า ปักหมุดปี 67 เดินหน้าลงทุนโครงการไฟฟ้า-เพิ่มกำลังผลิตติดตั้งเป็น 4.8 กิกะวัตต์ ฟากโบรกแนะนำ "ซื้อ" อัพราคาเป้าหมายใหม่ 4.20 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (3 ธ.ค. 67) ราคาหุ้น บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CKP ณ เวลา 11:35 น. อยู่ที่ระดับ 3.62 บาท บวก 0.24 บาท หรือ 7.14% สูงสุดที่ระดับ 3.62 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 3.36 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 42.64 ล้านบาท
บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุผ่านบทวิเคราะห์วันที่ 26 ธ.ค. 66 ว่า ประเมินกำไรปกติในไตรมาส 4/2566 ของบริษัท CKP อยู่ที่ 476 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 70% จากงวดเดียวกันของปีก่อน โดยฟื้นตัวจากมรสุมที่มาช้าเมื่อเทียบกับปีก่อน ขณะที่ประเมินการผลิตไฟฟ้าของโรงฟ้า อาทิ โรงไฟฟ้าน้ำงึม 2 ผลิตไฟฟ้า 599 กิกะวัตต์ชั่วโมง (GWh) เพิ่มขึ้น 61% จากงวดเดียวกันของปีก่อน หรือเติบโต 36% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และโรงไฟฟ้าไซยะบุรีผลิตไฟฟ้า1,879 กิกะวัตต์ชั่วโมง เพิ่มขึ้น 9% จากงวดเดียวกันของปีก่อน
นอกจากนี้ ยังปรับประมาณกำไรปกติปี 2566 ขึ้นมาอยู่ที่ 1.4 พันล้านบาท และกำไรปกติใน 2567 มาอยู่ที่ 1.6 พันล้านบาท หลังบริษัทผลิตไฟฟ้าในไตรมาส 4/2566 ได้มากกว่าที่เคยประเมินจากมรสุมที่เข้ามาช้าในปี 2566 ขณะที่ปี 2567 อ้างอิงคาดการณ์จาก International Research Institute for Climate and Society (IRI ENSO forecast) พบว่ามีโอกาสที่สภาพอากาศจะเข้าสู่สภาวะปกติตั้งแต่เดือน มิถุนายน 2567 เป็นต้นไป
โดยจากการอัพเดทสมมติฐานประมาณการผลิตไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าในปี 2566 สำหรับโครงการน้ำงึม 2 อยู่ที่ 1,655 กิกะวัตต์ชั่วโมง และในปี 2567 อยู่ที่ 1,682 กิกะวัตต์ชั่วโมง ส่วนโครงการไซยะบุรีประเมินที่ 6,876 กิกะวัตต์ชั่วโมง ในปี 2566 และ 7,090 กิกะวัตต์ชั่วโมงในปี 2567
ทั้งนี้ ฝ่ายวิเคราะห์ปรับคำแนะนำเป็น “ซื้อ” (จากเดิมถือ) และปรับราคาเป้าหมายเป็น 4.20 บาท (จากเดิม 3.90 บาท) สะท้อนประมาณการใหม่ โดยตัวเร่งการเติบโตของบริษัท (key catalyst) คือการลงทุนโครงการไฟฟ้าใหม่ๆเพิ่มเติม และมีเป้าหมายเพิ่มกำลังการผลิตติดตั้งเป็น 4.8 กิกะวัตต์ ในปี 2567