SET ต้นปีหน้าจับตาตัวเลขศก.จีนตัวชี้นำดัชนี
บล.ทรีนีตี้ มองนวโน้มตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์แรกของปีหน้า คาดว่าดัชนีจะแกว่งตัวออกด้านข้าง โดยมีปัจจัยที่ต้องติดตาม คือ การประกาศตัวเลข PMI ภาคการผลิตเดือนธ.ค.ของจีน ในวันที่ 1 ม.ค.59 ว่าจะออกมาเป็นอย่างไร ซึ่งหากออกมาต่ำกว่าระดับ 50 อีกครั้ง จะแสดงถึงภาวะเศรษฐกิจจีนที่ยังคงชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง และมีผลกระทบมาถึงการส่งออกของประเทศไทย
นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ เปิดเผยถึงตลาดหุ้นไทยวันนี้ (30 ธ.ค.) ดัชนีแกว่งตัวไซด์เวย์และไซดเวย์อัพ โดยเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดทั้งวัน ซึ่งมีปัจจัยหนุนมาจากการทำราคาปิดสิ้นงวดบัญชี (Window Dressing) รวมถึงมีเม็ดเงินของกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ไหลเข้า อีกทั้งยังปัจจัยราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวขึ้นช่วยหนุนตลาดในวันนี้
ส่วนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียวันนี้มีตลาดหุ้นในบางประเทศดัชนีเป็นบวกและตลาดหุ้นในบางประเทศดัชนีเป็นลบ โดยไม่มีปัจจัยใดที่ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นในภูมิภาคอย่างมีนัยสำคัญ
ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์แรกของปีหน้า คาดว่าดัชนีจะแกว่งตัวออกด้านข้าง โดยมีปัจจัยที่ต้องติดตาม คือ การประกาศตัวเลข PMI ภาคการผลิตเดือนธ.ค.ของจีน ในวันที่ 1 ม.ค.59 ว่าจะออกมาเป็นอย่างไร ซึ่งหากออกมาต่ำกว่าระดับ 50 อีกครั้ง จะแสดงถึงภาวะเศรษฐกิจจีนที่ยังคงชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง และมีผลกระทบมาถึงการส่งออกของประเทศไทย
นอกจากนี้ปัจจัยในประเทศยังคงต้องติดตามการประกาศมาตรการอื่นๆ ของกระทรวงการคลัง โดยเฉพาะการปรับโครงสร้างภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจะออกมาเป็นอย่างไร ซึ่งจะมีผลกระทบส่วนหนึ่งต่อหุ้นในกลุ่มค้าปลีกด้วย
ส่วนความกังวลในเรื่องการไถ่ถอนกองทุน LTF สำหรับผู้ที่ครบกำหนดเวลาไถ่ถอน 5 ปีนั้น มองว่าเป็นปัจจัยที่ไม่น่าจะกังวลมาก เนื่องจากแรงจูงใจที่จะไถ่ถอนของผู้ที่ลงทุนกองทุน LTF เมื่อ 5 ปีที่แล้ว อาจจะไม่มากนัก เพราะผู้ลงทุนกองทุน LTF ส่วนใหญ่ที่ลงทุนไปเมื่อ 5 ปีที่แล้ว มีต้นทุนเฉลี่ยใกล้เคียงกับปัจจุบัน บริเวณดัชนี SET ที่ 1,280 จุด ทำให้ผู้ลงทุนกองทุน LTF ส่วนใหญ่มีกำไรจากการลงทุนไม่มากนัก
พร้อมให้แนวรับ 1,270 จุด และแนวต้าน 1,310 จุด
หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรก
PTT ปิดที่ 244.00 บาท เพิ่มขึ้น 7.00 บาท
ADVANC ปิดที่ 152.00 บาท ลดลง 2.00 บาท
JAS ปิดที่ 3.24 บาท ลดลง 0.02 บาท
TKN ปิดที่ 8.55 บาท เพิ่มขึ้น 0.05 บาท
GL ปิดที่ 18.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
ที่มา: สำนักข่าวอินโฟเควสท์