ITD ร่วง 11% โบรกแนะ “เลี่ยงลงทุน” หลังขอเลื่อนจ่ายเงินต้นหุ้นกู้ 2 ปี

ITD ร่วง 11% วิตกบริษัทขอเลื่อนจ่ายเงินต้นหุ้นกู้ 5 รุ่น รวมวงเงิน 1.45 หมื่นล้านบาท ออกไปอีก 2 ปี ขณะที่รุ่น ITD242A ครบกำหนด 15 ก.พ.นี้ วงเงิน 2 พันล้าน ด้านบล.ฟิลลิป มองเชิงลบ แนะนำหลีกเลี่ยงการลงทุน


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (8 ม.ค. 67) ราคาหุ้น บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD ณ เวลา 10:25 น. อยู่ที่ระดับ 0.86 บาท ลบไป 0.11 บาท หรือลงไป 11.34% สูงสุดที่ระดับ  0.87 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 0.81 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 36.14 ล้านบาท

บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า จากข่าว ITD ขอเลื่อนจ่ายเงินต้นหุ้นกู้ 2 ปี และจะชำระเพียงดอกเบี้ยหุ้นกู้ ซึ่งทางบริษัทจะส่งหนังสือแจ้งผู้ถือหุ้นรับทราบ 8 ม.ค. (วันนี้) ซึ่งปัจจุบัน ITD มีหุ้นกู้ ITD242A ที่เตรียมจะครบกำหนด 15 ก.พ. 67 นี้ราว 2 พันล้านบาท และยังมีหุ้นกู้ถึง มิ.ย.68 คงค้างอีก 4 รุ่น รวม 1.24 หมื่นล้านบาท (รวม 5 รุ่น 1.45 หมื่นล้านบาท)

โดยทางฝ่ายมีมุมมองเชิงลบต่อหุ้น ITD นับตั้งแต่ประเด็นนี้เกิดขึ้นเมื่อปลายปีที่ผ่านมา และการแจ้งต่อผู้ถือหุ้นดังกล่าว ถือเป็นความชัดเจนเรื่องการขาดสภาพคล่องของ ITD ที่เพิ่มมากขึ้น ทางฝ่ายกลยุทธ์มองหุ้นกู้อีก 4 รุ่นที่เหลือมีความเป็นไปได้สูงที่อาจต้องเลื่อนชำระเงินต้น และชำระเพียงดอกเบี้ยเช่นกัน

สำหรับนักลงทุนระยะสั้น แนะนำหลีกเลี่ยงการลงทุน เนื่องจากยังมีปัจจัยที่ไม่แน่นอนต้องพิจารณาร่วมด้วยอีกมาก เช่น การตีความจากเจ้าหนี้ว่าเป็น Default หรือไม่ การเจรจายืดหนี้ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เป็นต้น

นักลงทุนระยะกลาง ทางฝ่ายมองปัญหาทางการเงินอาจส่งผลต่อการประมูลงานในอนาคต ซึ่งอาจถูกตัดสิทธิ์ด้านคุณสมบัติ และนักลงทุนระยะยาว ฝ่ายกลยุทธ์แนะนำหลีกเลี่ยงการลงทุนในหุ้น ITD

ด้านผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีกระแสข่าวในโลกโซเชียวมีเดียว่าบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD ว่าเตรียมที่จะทำหนังสือส่งถึงเจ้าหนี้ผู้ถือหุ้นกู้ขอเลื่อนจ่ายเงินต้นหุ้นกู้ทุกรุ่นออกไปอีก 2 ปี แต่ระหว่างทางจะยังจ่ายดอกเบี้ยให้ตามปกติ

นอกจากนี้ยังมีกระแสข่าวว่า ITD จะมีการส่งหนังสือแจ้งรายละเอียดการเลื่อนชำระหนี้ให้กับผู้ถือหุ้นกู้ในวันที่ 8 ม.ค.2567 ซึ่งผู้ถือหุ้นกู้จะรับทราบรายละเอียด โดยเฉพาะรุ่นที่กำลังจะครบกำหนดในวันที่ 15 ก.พ.2567 โดยรวมหนี้หุ้นกู้ ITD สูงกว่า 1.45 หมื่นล้าน

สำหรับหุ้นกู้ของ ITD ปัจจุบันมีจำนวน 5 รุ่น มูลค่ารวม 14,455 ล้านบาท แบ่งเป็น หุ้นกู้ที่จะครบกำหนดในปีนี้ 3 รุ่น ได้แก่ รุ่น ITD242A ครบกำหนด 15 ก.พ.2567 มูลค่า 2,000 ล้านบาท, รุ่น ITD242DA ครบกำหนด 4 ธ.ค.2567 มูลค่า 2,455 ล้านบาท ,รุ่น ITD24DB ครบกำหนด 4 ธ.ค.2567 มูลค่า 1,215 ล้านบาท

ส่วนอีก 2 รุ่นครบกำหนดในปีหน้า รุ่น ITD254A ครบกำหนด 29 เม.ย.2568 มูลค่า 6,000 ล้านบาทรุ่น ITD266A ครบกำหนด 2 มิ.ย.2568 มูลค่า 2,785 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ประเด็นดังกล่าวหากกรณีนี้เจ้าหนี้ให้ถือเป็นการผิดนัดชำระหนี้ อาจมีผลต่อเนื่องไปถึงเงินกู้ยืมจากธนาคารพาณิชย์ที่ปัจจุบัน ITD มีกว่า 2.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งอาจกลายเป็นหนี้เสีย (NPL) ไปด้วย

กระแสข่าวที่กังวลว่าทาง ITD จะขอเลื่อนชำระหนี้หลังเริ่มส่งสัญญาณว่าอาจไม่มีเงินมาชำระคืนดอกเบี้ยหุ้นกู้ ซึ่งครบกำหนดจ่ายในวันที่ 4 ธ.ค.2566 ทำให้ธนาคารพาณิชย์ที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน จึงรอดการ Default มาได้อย่างหวุดหวิด

สำหรับปัญหาใหญ่ในช่วงที่ผ่านมาของ ITD คือ โครงการลงทุนหลายโครงการมีความผิดพลาด ทั้งตัวโครงการที่ไม่เป็นไปตามแผน และโครงการที่ล่าช้าไปกว่าแผน อันเนื่องมาจากความชัดเจนของภาครัฐ และสถานการณ์ไม่เป็นใจ จนส่งผลต่อสภาพคล่องของตัวบริษัทไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในโครงการทวาย เขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย ที่เมียนมา มูลค่ารวมกว่า 8 พันล้านบาท ไปจนถึงโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน เกือบๆ 4 พันล้านบาท โดยที่ ITD ไม่ได้มีรีเทิร์นจากโครงการเหล่านี้กลับเข้ามาเลย ประกอบกับปัญหางบค้างท่อและการเบิกจ่ายงบจากภาครัฐที่ ITD เข้าไปรับงานมีความล่าช้า จึงยิ่งทำให้สภาพคล่องของ ITD ตึงตัวมากขึ้น

ขณะที่งบการเงินของ ITD ช่วง 5 ปีที่ผ่านมา พบว่า ขาดทุนสุทธิต่อเนื่อง ยกเว้นช่วง 9 เดือนปี 2566 ซึ่งมีกำไรสุทธิราว 379 ล้านบาท ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการขายสินทรัพย์ออกไปจึงทำให้งบดูดีมีกำไร ส่วนในปี 2565 ขาดทุนสุทธิ 4,759 ล้านบาท,  ปี 2564 ขาดทุนสุทธิ 155 ล้านบาท , ปี 2563 ขาดทุนสุทธิ 1,104 ล้านบาท และปี 2562 ขาดทุนสุทธิ 37.34 ล้านบาท

นอกจากนี้ เรื่องสภาพคล่องของ ITD กำลังเผชิญปัญหาอันหนักหน่วง โดยมีหนี้สินหมุนเวียนราว 7.1 หมื่นล้านบาท ขณะที่สินทรัพย์หมุนเวียนประมาณ 6.45 หมื่นล้านบาทโดยมีหนี้หุ้นกู้ที่จะครบกำหนดชำระในเดือน ก.พ.2567 ราว 2 พันล้านบาท และหนี้สินระยะยาวที่มีกำหนดต้องชำระคืนภายในหนึ่งปีอีกประมาณ 1.6 หมื่นล้านบาท

ขณะที่สินทรัพย์มีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดอยู่ที่ 4 พันล้านบาท เงินฝากสถาบันการเงินที่มีข้อจำกัดการใช้-หมุนเวียน 781 ล้านบาท และเงินลงทุนระยะสั้นในตราสารหนี้อีก 514 ล้านบาท

Back to top button