AUCT บวก 4% เก็งกำไร Q4 นิวไฮ! รับรถมือสองพุ่ง ผุดลานประมูลใหม่
AUCT บวก 4% เก็งกำไร Q4 นิวไฮ! รับรถมือสองพุ่ง พร้อมคาดว่าปี 66 ผลงานจะสดใส และการประกาศจ่ายเงินปันผล ขณะที่คาดประมูลรถมือสองปี 67 เติบโตต่อเนื่อง เดินหน้าแผนผุดลานประมูลใหม่ บล.กรุงศรี คงคำแนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมายที่ 12.80 บาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (12 ม.ค.67) ราคาหุ้น บริษัท สหการประมูล จำกัด (มหาชน) หรือ AUCT ณ เวลา 15:13 น. อยู่ที่ระดับ 11.80 บาท บวก 0.50 บาท หรือ 4.42% สูงสุดที่ระดับ 12.00 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 11.30 บาท ด้วยมูลการซื้อขาย 50.44 ล้านบาท
ด้าน บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ถึงหุ้น AUCT คาดว่ากำไรจากธุรกิจหลักจะทำสถิติสูงสุดใหม่ในไตรมาส 4/66 โดยคาดว่ากำไรจากธุรกิจหลักจะอยู่ที่ 104 ล้านบาทในไตรมาส 4/66 เพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 11% จากไตรมาสก่อน เพราะช่วง peak ตามฤดูกาลจะทำให้รายได้เพิ่มขึ้นเป็น 355 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24% เมื่อเทียบับช่วงเดียวของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 9% จากไตรมาสก่อน
ในขณะที่คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ของทั้งเครือจะทรงตัวอยู่ที่ประมาณ 50.5% จาก 50.2% ในไตรมาส 3/66 เพราะได้แรงหนุนจากการที่มีจำนวนรถเข้าประมูลมากขึ้น
ขณะที่ผลประกอบการไตรมาส 4/66 จะแข็งแกร่งไปเรียบร้อยแล้ว โดยคาดว่าราคาหุ้นจะขยับขึ้นได้อีกครั้งในต้นเดือนมีนาคม โดยจะได้แรงหนุนจากตัวเลข NPL ที่สูงขึ้นของสถาบันการเงิน ซึ่งหมายความว่าจะมีรถเข้ามาประมูลมากขึ้น การประกาศงบการเงินประจำปี 2566 ที่คาดว่าจะสดใส และการประกาศจ่ายเงินปันผล
โดยมองว่าการที่หุ้น AUCT จะขยับขึ้นแบบเป็นชิ้นเป็นอันได้อีกรอบจะขึ้นอยู่กับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอีกสองเดือนข้างหน้า (1) การประกาศผลประกอบการปี 2566 (2) การรายงานตัวเลข NPL งวดไตรมาส 4/66 และ (3) การประกาศจ่ายเงินปันผล ยังคงชอบ AUCT เนื่องจาก (1) ผลประกอบการมีแนวโน้มแข็งแกร่งชัดเจน และ (2) อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลอยู่ในเกณฑ์ดี
ทั้งนี้ ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” AUCT ราคาเป้าหมายที่ 12.80 บาท มองว่าสภาวะของ AUCT ยังคงเป็นบวก เพราะบริษัทจะได้อานิสงส์จาก NPL ที่เพิ่มขึ้นของสถาบันการเงิน ทั้งนี้ รถที่ประมูลขายออกไปได้มีจำนวนลดลงเพราะภาวะเศรษฐกิจอ่อนแอ และกดดัน GPM แม้ว่ารายได้จะเติบโตอย่างแข็งแกร่งก็ตาม ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่จำกัด upside ของราคาหุ้น AUCT ในระยะสั้นเอาไว้
ขณะที่ นายวรัญญู ศิลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ AUCT เปิดเผยว่า ในปี 66 ที่ผ่านมามีรถยนต์และรถจักรยานยนต์มือสองขายผ่านสหการประมูลเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้านี้กว่า 20% เนื่องจากภาพรวมตลาดรถยนต์มือสองเริ่มมีการฟื้นตัว และคาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องตลอดปี 67 เพราะปัจจัยด้านเศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัวและการปล่อยสินเชื่อในกลุ่มยานยนต์ที่มีแนวโน้มว่าเติบโต รวมทั้งปัจจัยด้านดีมานด์ในตลาดที่เริ่มมีความชัดเจนขึ้น
สำหรับแผนการตลาดในปี 67 นั้น นอกจากจะมีการพัฒนาลานประมูลเดิมให้มีความทันสมัยขึ้นแล้ว ยังจะมีการก่อสร้างลานประมูลแห่งใหม่ที่สำนักงานใหญ่ เพื่อให้ลูกค้าได้รับความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น เพราะจะมีความหลากหลายของฟังก์ชั่นการให้บริการ โดยบริษัทฯ มีเป้าหมายที่จะทำให้ลูกค้าเกิดความประทับใจกับบริการใหม่ ๆ ซึ่งคาดว่าจะสามารถให้บริการได้ประมาณไตรมาส 3-4 ปี 67
ส่วนการประมูลต่างจังหวัดนั้น ปัจจุบันบริษัทฯ มีจุดบริการลูกค้าอยู่ในหัวเมืองใหญ่ ๆ ทั่วประเทศจำนวน 13 แห่ง เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าในส่วนภูมิภาค นอกจากนี้แล้วยังมีคลังสินค้าและจุดรับรถในจังหวัดต่างอื่น ๆ อีกหลายแห่ง หากตลาดมีการขยายตัวอาจมีการขยายจุดบริการเพิ่มขึ้น
นายวรัญญู กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากการพัฒนาจุดบริการแล้ว บริษัทฯ ยังมีแผนที่จะลงทุนพัฒนาซอฟต์แวร์ใหม่ๆ มาใช้กับการประมูลรถยนต์มือสอง และเปิดตัวบริการใหม่ที่เรียกว่า AUCT Live ภายในปีนี้ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มขีดความสามารถสำหรับบริการลูกค้าให้ได้รับความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกันระบบนี้ยังจะช่วยลดขั้นตอนการทำงานของพนักงานและทำให้เกิดการทำงานที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมาบริษัทฯ มีทั้งบริการประมูลซื้อ-ขายหน้าลานและการประมูลออนไลน์ ดังนั้นการลงทุนพัฒนาซอฟต์แวร์คาดว่าจะช่วยให้บริการประมูลออนไลน์มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นจากเดิม 5-10% ซึ่งปัจจุบันนี้มีลูกค้าใช้บริการประมูลออนไลน์ประมาณ 60-70% ของการประมูลรถยนต์มือสองทั้งหมดของบริษัทฯ เพราะทำให้ลูกค้าได้รับความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น เนื่องจากระบบออนไลน์สามารถบอกรายละเอียดของรถยนต์และคุณสมบัติต่าง ๆ ของสินค้าได้ละเอียดมากขึ้น
“ตลอดเวลาที่ผ่านมา AUCT ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาบริการในรูปแบบต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง เพราะอุตสาหกรรมประมูลรถยนต์มือสองมีการแข่งขันรุนแรง นอกจากจุดแข็งในเรื่องความเป็นผู้นำที่มีความโปร่งใสในบริการแล้ว ยังต้องให้ความสำคัญกับการบริการที่ดีในการทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย เพื่อให้ได้รับความพึงพอใจสูงสุดทั้ง 2 ฝ่าย” นายวรัญญู กล่าว