ACC เตรียมใช้เงิน 11.25 ลบ. ซื้อหุ้น “โฟอัส เทคโนโลยี่” ทำพลังงานทางเลือก

ACC เตรียมใช้เงิน 11.25 ลบ. ซื้อหุ้น 75% ใน “โฟอัส เทคโนโลยี่” ผู้ดำเนินธุรกิจพลังงานทางเลือก คาดทำสัญญา Q1/59


บริษัท แอดวานซ์ คอนเนคชั่น คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ACC ระบุว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 30 ธ.ค.58 อนุมัติการลงทุนซื้อหุ้นในบริษัท โฟอัส เทคโนโลยี่ จำกัด จำนวน 112,500 หุ้น คิดเป็น 75% ของทุนจดทะเบียน ในราคาหุ้นละ 100 บาท คิดเป็นจำนวนเงิน 11.25 ล้านบาท เพื่อประกอบธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับพลังงานทางเลือก โดยเฉพาะธุรกิจรับบริการติดตั้งแผงผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบครบวงจร (Engineering, Procurement and Construction Management, EPC) ในโครงการ  Solar Rooftop for Energy Savings สำหรับลูกค้าอุตสาหกรรม

ทั้งนี้ บริษัทจะชำระค่าหุ้นเป็นเงินสดจำนวน 25% ในวันที่โอนหุ้น ส่วนที่เหลือจะชำระภายในวันที่ 30 มิ.ย.59 โดยเงินลงทุนจะมาจากการขายหุ้นเพิ่มทุนที่ผ่านมา ซึ่งการลงทุนครั้งนี้จะทำให้บริษัทได้รับเงินปันผลจากการลงทุน และเป็นการขยายการลงทุนของบริษัทเข้าสู่ธุรกิจบริการติดตั้งแผงผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบครบวงจร ซึ่งสอดคล้องกับแผนและกลยุทธ์ในการลงทุนและการดำเนินธุรกิจของบริษัทที่ต้องการเข้าสู่ธุรกิจพลังงานทางเลือกในรูปแบบที่หลากหลาย

โดยภายหลังจากที่บริษัทเข้าซื้อหุ้นดังกล่าวแล้ว บริษัท โฟอัส เทคโนโลยี่ จำกัด จะทยอยเพิ่มทุนจดทะเบียนตามความต้องการใช้เงินและความคืบหน้าของธุรกิจ ในจำนวนสูงสุดไม่เกิน 45 ล้านบาท จากทุนจดทะเบียนเดิม 15 ล้านบาท เป็นทุนจดทะเบียนสูงสุดไม่เกิน 60 ล้านบาท ซึ่งบริษัทจะจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนตามสัดส่วนการถือหุ้น โดยการเพิ่มทุนดังกล่าวเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบธุรกิจ

ทั้งนี้ในปี 58 บริษัท โฟอัส เทคโนโลยี่ จำกัด ริเริ่มโครงการ Solar Rooftop for Energy Savings โดยให้บริการติดตั้งระบบ Solar Rooftop แบบครบวงจรให้กับลูกค้า ซึ่งประกอบด้วยบริการออกแบบก่อสร้าง การติดต่อประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง การจัดหาอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐานและคุณสมบัติตามกำหนดของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การจัดหาแหล่งเงินกู้ยืมระยะยาวจากสถาบันการเงิน การดำเนินการก่อสร้างหรือจัดหาผู้รับเหมาเข้าดำเนินการ รวมถึงการจัดหาบริษัทซ่อมบำรุงและผู้บริหารจัดการระบบ โดยได้เริ่มดำเนินโครงการแรก ณ ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต ในช่วงไตรมาส 4 ที่ผ่านมา โดยมีกำลังการผลิตของระบบ Solar Rooftop เท่ากับ 3.2 เมกะวัตต์

โดยธุรกิจดังกล่าวเน้นการสร้างมูลค่าให้กับลูกค้าผ่านการลดต้นทุนค่าพลังงานไฟฟ้า ซึ่งมีศักยภาพการเติบโตและมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ดี จึงมีนโยบายขยายการลงทุนในโครงการดังกล่าว โดยมุ่งเน้นนำเสนอบริการต่อลูกค้า ทั้งกลุ่มโรงงานในนิคมอุตสาหกรรม โรงงานทั่วไป และห้างสรรพสินค้าซึ่งได้รับความสนใจเป็นอย่างดี

Back to top button