BDMS-BCH กอดคอวิ่ง! โบรกชูหุ้นเด่น “กลุ่มโรงพยาบาล” ชี้กำไรปี 67 โตแกร่ง

BDMS-BCH กอดคอวิ่ง! โบรกชูหุ้นเด่น “กลุ่มโรงพยาบาล” ชี้เป้า BDMS ราคา 35 บาท มองเด่นสุดในโซนอีอีซี คาดปี 67 มีกำไร 15,292 ล้านบาท โต 8% ส่วน BCH เคาชูเป้า 24 บาท คาดปี 67 กำไรแกร่งที่สุดโต 18% แตะ 1,749 ล้านบาท รับผลบวกผู้ป่วยประกันสังคมพุ่ง-ผลงานรพ.ใหม่ดีขึ้น


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (22 ม.ค.67) 2 หุ้นกลุ่มกลุ่มการแพทย์บวกคึก นำโดยบริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS  ณ เวลา 11:37 น. อยู่ที่ระดับ 27.75 บาท บวก 0.50 บาท หรือ 1.83% สูงสุดที่ระดับ 27.75 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 27.00 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 361.96 ล้านบาท

ด้านบริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) หรือ BCH ณ เวลา 11:37 น. อยู่ที่ระดับ 22.90 บาท บวก 0.50 บาท หรือ 2.23% สูงสุดที่ระดับ 23.00 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 22.30 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 111.90 ล้านบาท

บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด ประเมินว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานของหุ้นกลุ่มการแพทย์ในปี 2567 จะกลับมาสู่ระดับปกติ คาดกำไรปกติของกลุ่มการแพทย์จะเติบโตขึ้น 11% จากปี 2566 ซึ่งเลือก 2 บริษัท คือ บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จำกัด (มหาชน) หรือ BCH และบริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS เป็นหุ้นเด่นของกลุ่มการแพทย์ โดยหุ้นทั้ง 2 บริษัท ยังมี valuation ที่น่าสนใจ (ซื้อขายต่ำกว่าระดับ -2SD) และมี SET ESG ratings ในปี 2566 อยู่ที่ระดับ AA

สำหรับ BCH กำหนดราคาเป้าหมายสิ้นปี 2567 อยู่ที่ 24 บาท/หุ้น คาดว่า BCH จะรายงานกำไรเติบโตแข็งแกร่งที่สุดในปี 2567 อยู่ที่ 1,749 ล้านบาท เติบโต 18% จากปี 2566 ที่คาดจะมีกำไรปกติอยู่ที่ 1,471 ล้านบาท และคาดจะมีรายได้ปี 2567 อยู่ที่ 12,681 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% จากปี 2566 ที่คาดอยู่ที่ 11,897 ล้านบาท ซึ่งได้หนุนจากประมาณการจำนวนผู้ประกันตนที่จะเพิ่มขึ้น ภายใต้โครงการประกันสังคม (SC) และผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นของโรงพยาบาลใหม่ โดยอิงกับรายได้ที่เติบโต 7% (ยึดหลักความระมัดระวังมากกว่าเป้าของ BCH ที่คาดว่ารายได้จะเติบโตเป็นตัวเลขสองหลัก) และ EBITDA margin (อัตรากำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย) ที่กว้างขึ้น (27% จาก 25.4% ในปี 2566)

ทั้งนี้ BCH ตั้งเป้าหมายจะมีรายได้จากการให้บริการทางการแพทย์เติบโตเป็นตัวเลข 2 หลัก คาดว่า BCH จะเปิดศูนย์มะเร็งรักษาเกษมราษฎร์อารีย์ เพื่อให้บริการผู้ป่วย โรคมะเร็งในไตรมาส 3/2567 และวางแผนเปิด Kasemrad Plastic Surgery Center เพิ่ม 2-4 แห่ง รวมถึงวางแผนขยายศูนย์หัวใจเพื่อให้บริการเต็มรูปแบบที่ โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ฉะเชิงเทรา พร้อมกำลังขยายและปรับปรุงโรงพยาบาลที่มีอยู่เดิมในเดือน พ.ค 2566-ม.ค. 2568 ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสามารถในการให้บริการผู้ป่วย โดย BCH วางแผนเปิดโรงพยาบาลใหม่เพิ่มอีก 5 แห่ง สู่เป้าหมายที่ 20 แห่ง ภายในปี 2571 ซึ่งจะทำให้จำนวนเตียงจดทะเบียนเพิ่มขึ้นจาก 2,254 เตียง  สู่ 3,100 เตียง ในปี 2571 หรือเพิ่มขึ้น 38%

ส่วน BDMS กำหนดราคาเป้าหมายสิ้นปี 2567 อยู่ที่ 35 บาท/หุ้น ซึ่งมองว่าเป็นผู้ที่ได้ประโยชน์สูงสุดจากการเติบโตในระยาวของพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) จากปัจจุบัน BDMS มีสถานะที่แข็งแกร่งที่สุดและมีโรงพยาบาลในพื้นที่ EEC อยู่ที่ 10 แห่ง โดยคาดปี 2567 จะมีกำไร  15,292 ล้านบาท เติบโต 8% จากปี 2566 ที่มีกำไร 14,172 ล้านบาท และคาดรายได้ในปี 2567 อยู่ที่ 101,118 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% จากปี 2566 ที่คาดจะมีรายได้อยู่ที่ 95,231 ล้านบาท

ทั้งนี้ BDMS จะมุ่งเน้นโรงพยาบาล 14 แห่ง ที่มีศูนย์ความเป็นเลิศ (COE) โดยให้บริการรักษาโรคที่สำคัญ ได้แก่ โรคหัวใจ มะเร็ง หลอดเลือดสมอง ศัลยกรรมกระดูก และอุบัติเหตุ พร้อมตั้งเป้าหมายมีเตียงจดทะเบียน 9,000 เตียง ในปี 2568-2570 จาก 8,400 เตียงในปี 2565 นอกจากนี้ BDMS จะเสริมสร้างความเข็งแกร่งให้กับฐานคนไข้ไทย ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มผู้มีรายได้ปานกลาง โดยร่วมมือกับบริษัทประกันกันภัย เพื่อจัดทำกรมธรรม์ประกันสุขภาพแบบเอ็กซ์คลูซีฟ และตั้งเป้าหมายระยะยาวในการเพิ่มสัดส่วนรายได้จากกลุ่มประกันเป็น 40% จาก 36% ณ 9 เดือนแรกของปี 2566

Back to top button