SINO บวก 5% ลุ้นเป้า “ขนส่งสินค้า” ปี 67 โต 15% หนุนรายได้พุ่ง
SINO บวก 5% ตอบรับเป้าหมายปี 67 ว่าปริมาณการขนส่งสินค้าเพิ่มเป็น 53,000 ตู้ หรือเพิ่มขึ้นกว่า 15% จากปีที่ผ่านมาซึ่งอยู่ที่ 46,000 ตู้ ช่วยหนุนรายได้เพิ่มขึ้น พ่วงรับอานิสงส์ค่าระวางเรือขาขึ้นรอบใหม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (23 ม.ค. 67) ราคาหุ้น บริษัท ไซโน โลจิสติกส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SINO ณ เวลา 11:05 น. อยู่ที่ระดับ 1.73 บาท บวก 0.09 บาท หรือ 5.49% สูงสุดที่ระดับ 1.77 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 1.65 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 64.20 ล้านบาท
นายนันท์มนัส วิทยศักดิ์พันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SINO เปิดเผยว่า ค่าระวางเรือในช่วงไตรมาส 1/2567 มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากช่วงกลางเดือนธันวาคม 2566 หลังสถานการณ์การโจมตีเรือบรรทุกสินค้าในทะเลแดงที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น ส่งผลให้ดัชนีค่าระวางเรือ Shanghai Containerized Freight Index ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 2,206 จุด (12 มกราคม 2567) หรือสูงขึ้นเกือบเท่าตัว เมื่อเทียบกับช่วงกลางเดือนที่ผ่านมา (15 ธันวาคม 2566) อยู่ที่ประมาณ 1,100 จุด โดยอัตราค่าบริการขนส่งสินค้าทางทะเลในเส้นทางไทย-สหรัฐ สูงขึ้นถึง 5,000-6,000 เหรียญสหรัฐ จากเดิมอยู่ที่ 2,500-3,000 เหรียญสหรัฐ
นอกจากนี้ ปัจจัยดังกล่าวยังก่อให้เกิดความกังวลว่าจะเกิดการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ เนื่องจากผู้ประกอบการสายเดินเรือต้องปรับเปลี่ยนเส้นทางเดินเรือ เพื่อหลีกเลี่ยงเส้นทางดังกล่าวในการขนส่งสินค้าสู่ตลาดสหรัฐและยุโรป ทำให้ระยะเวลาเดินทางและต้นทุนการเดินเรือเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ บริษัทฯ พร้อมนำศักยภาพการดำเนินธุรกิจผู้ให้บริการโลจิสติกส์ระหว่างประเทศอย่างครบวงจร (Integrated Logistics Service Provider) ทั้งทางทะเล ทางอากาศ และทางบก โดยเป็นผู้ให้บริการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศที่มีความชำนาญในการให้บริการบนเส้นทางขนส่งสินค้าระหว่างประเทศทางทะเล ที่มีปริมาณการขนส่งสินค้าทางเรือในเส้นทางไทย-สหรัฐสูงเป็นอันดับ 1 ของผู้ให้บริการสัญชาติไทยและเป็นอันดับ 4 ของผู้ให้บริการของโลก รวมถึงการให้บริการที่เกี่ยวข้องกับโลจิสติกส์ อย่างครบวงจร เพื่อช่วยบริหารความเสี่ยงที่เกิดขึ้น เนื่องจาก SINO มีความสัมพันธ์ที่ดีและมีการทำสัญญาการให้บริการกับผู้ประกอบการสายเดินเรือ จึงมีความสามารถจัดหาพื้นที่ระวางเรือเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า รวมถึงเตรียมนำตู้คอนเทนเนอร์ของบริษัทฯ เข้ามาให้บริการเพิ่มเติมแก่ลูกค้า หากเกิดกรณีตู้เปล่าคอนเทนเนอร์ขาดแคลน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าจะสามารถส่งสินค้าได้ตรงตามระยะเวลาที่กำหนด
“ค่าระวางเรือที่เพิ่มขึ้นรอบนี้ ไม่กระทบต่อความต้องการส่งออกสินค้าของลูกค้าให้ลดลงอย่างมีนัยยะ เนื่องจากเราได้นำเสนอโซลูชันการให้บริการโลจิสติกส์ที่ครบวงจร เพื่อบริหารจัดการความเสี่ยงที่เกิดขึ้นให้ลูกค้าได้เป็นอย่างดี ขณะที่ SINO ได้รับประโยชน์เชิงบวกจากค่าระวางเรือ ซึ่งคาดว่าจะส่งผลดีต่อรายได้มากยิ่งขึ้น” นายนันท์มนัส กล่าว
ส่วนแนวโน้มปริมาณการให้บริการขนส่งสินค้าในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ คาดว่าจะทำได้ตามเป้าหมาย จากปัจจัยบวกของเศรษฐกิจโลกที่ยังคงมีอัตราการเติบโตที่ดี ส่งผลให้มีการส่งออกสินค้าเพิ่มขึ้น รวมถึงแผนกลยุทธ์เชิงยุทธศาสตร์ที่ SINO ต้องการผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลาง (Hub) ในการขนส่งสินค้าทางทะเล ให้แก่ประเทศต่างๆ ในอาเซียนที่ต้องการส่งออกสินค้าไปยังตลาดสหรัฐอเมริกา บริษัทฯ จึงตั้งเป้าหมายในปี 2567 ว่าจะมีปริมาณการขนส่งสินค้าเพิ่มเป็น 53,000 ตู้ หรือเพิ่มขึ้นกว่า 15% จากปีที่ผ่านมาซึ่งอยู่ที่ 46,000 ตู้