“วนรัชต์”ลั่นพร้อมชดใช้โจทก์ ชี้เป้าเจ้าหนี้“เฟ้ลปส์ดอด์จ”บังคับฟื้นฟูกระทบผู้ถือหุ้นกู้

“วนรัชต์ ตั้งคารวคุณ” โผล่แจงศาลแพ่งคดี STARK ยันความบริสุทธิ์แต่ไว้ใจคนผิดทำให้เกิดทุจริต วอนอย่าเอาเรื่องกรรมการเพราะไม่เกี่ยวข้อง ขอศาลเร่งพิจารณาคดี ย้ำไม่ขอต่อสู้ พร้อมทำทุกทางเยียวยาผู้เสียหาย ห่วง“เฟ้ลปส์ ดอด์จ” โดนบังคับฟื้นฟูกลุ่มถือหุ้นกู้จะไม่ได้รับความเป็นธรรม


วันที่ 29 ม.ค. 67   ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ณ ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ มีผู้เสียหายจากหุ้นกู้ บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK เดินทางมารับฟังการไต่สวนคดีเพื่อขอดำเนินคดีแบบกลุ่ม (Class Action) ที่ได้ยื่นฟ้องแพ่งผู้บริหาร STARK รวมทั้งหมด 5 คน ประกอบด้วย 1.นายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ 2.นายชนินทร์ เย็นสุดใจ 3.นายชินวัฒน์ อัศวโภคี 4.นายศรัทธา จันทรเศรษฐเลิศ  5.นายกิตติศักดิ์ จิตต์ประเสริฐงาม

โดยในวันนี้นายวนรัชต์ ได้เข้าร่วมการพิจารณาและแถลงต่อศาลแพ่งใต้ว่า ขอกราบเรียนต่อศาลที่เคารพว่า ข้าพเจ้ารู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่งสำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และกลุ่มสตาร์ค แม้ว่า ข้าพเจ้าจะไม่ได้เป็นผู้กระทำความผิดก็ตาม แต่ก็รู้สึกเศร้าใจเป็นอย่างยิ่งที่ไม่สามารถดูแลในรายละเอียดของการบริหารจัดการได้ ซ้ำยังไว้วางใจคนผิดจนทำให้เกิดการผิดพลาดและการทุจริตขึ้นในบริษัทสตาร์คและกลุ่มสตาร์ค

แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับสตาร์คนั้น เป็นเรื่องส่วนตัวของ ข้าพเจ้าไม่เกี่ยวข้องกับครอบครัว และ ข้าพเจ้ายังเห็นว่ากรรมการท่านอื่นไม่น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ด้วย รวมทั้งพนักงานระดับล่าง ซึ่งถูกล่อลวง หรือบีบคั้นจนต้องปฏิบัติตามคำสั่งของผู้กระทำการทุจริต ซึ่งบุคคลเหล่านี้เป็นบุคคลที่ควรได้รับความเห็นใจและไม่สมควรที่ต้องร่วมรับผิดกับผู้กระทำความผิดที่ได้สั่งการให้กระทำด้วย

ข้าพเจ้าสามารถรับรู้ได้ถึงความทุกข์ยากอย่างแสนสาหัสของกลุ่มผู้ซื้อหุ้นกู้รายย่อยที่ต้องมาร่วมรับเคราะห์กรรมในครั้งนี้ด้วย ข้าพเจ้าจึงใคร่ขอความกรุณาศาลโปรดเร่งกระบวนการพิจารณาคดีนี้โดยเร็ว และได้กำชับทนายความของ ข้าพเจ้าไม่ต้องสู้คดีนี้ ทั้งนี้ เพื่อที่จะได้รีบนำทรัพย์สินของ ข้าพเจ้าที่เหลืออยู่ไปบรรเทาทุกข์ให้แก่ผู้เสียหาย

นอกจากนี้ ข้าพเจ้าในฐานะผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทสตาร์คจะดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อประโยชน์ของกลุ่มผู้ซื้อหุ้นกู้รายย่อย หรือจนกว่ากลุ่มผู้ซื้อหุ้นกู้รายย่อยจะได้รับการเยียวยาจนเสร็จสิ้น โดยในเบื้องต้น ข้าพเจ้าจะทำหนังสือแสดงเจตนาของ ข้าพเจ้าส่งไปยังคณะกรรมการบริษัทสตาร์ค ขอให้เร่งยุติกระบวนการพิจารณาคดีที่เกี่ยวกับกลุ่มผู้ถือหุ้นโดยเร็วที่สุด

โดยยอมรับความจริงที่เกิดขึ้น เพื่อให้กลุ่มผู้ถือหุ้นผู้ได้รับสิทธิโดยชอบธรรมตามกฎหมายอย่างเต็มที่ในการบังคับคดีเอากับทรัพย์สินของสตาร์ค อันได้แก่ หุ้นและสิทธิเรียกร้องเงินกู้ที่สตาร์คได้ให้บริษัท เฟ้ลปส์ ดอด์จ อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) จำกัด กู้ยืมไปเป็นจำนวนหลายพันล้านบาท เพราะหากเวลาเนินช้าออกไปแล้ว กลุ่มผู้ถือหุ้นกู้อาจไม่ได้รับความเป็นธรรมอย่างเต็มที่ เพราะบริษัท เฟ้ลปส์ ดอด์จ อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) จำกัด กำลังเข้าสู่การฟื้นฟูกิจการ ซึ่งหมายถึงการถูกบังคับจากเจ้าหนี้รายใหญ่ให้ทำการปรับปรุงโครงสร้างหนี้และลดยอดหนี้ส่วนนี้ลงในอนาดตอันใกล้นี้

บัดนี้ความจริงปรากฏชัดในระดับหนึ่งแล้วว่า เงินจากการทุจริตจำนวน 8,000 ล้านบาท ถูกนำไปซุกซ่อนที่ประเทศอังกฤษส่วนหนึ่ง และอีกจำนวนหนึ่งที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ตรวจพบว่าอยู่ในความครอบครองของผู้กระทำความผิด ซึ่งเงินทุจริตอยู่ที่ใคร คนนั้นจะต้องรับผิดชอบ

ข้าพเจ้าได้แต่หวังว่าหน่วยงานของรัฐจะสามารถเร่งดําเนินการเรื่องนี้ให้เสร็จสิ้นโดยเร็วที่สุด และสามารถนําตัวผู้กระทําความผิดมาฟ้องลงโทษได้ในที่สุด

ส่วนตัวของข้าพเจ้าจะต้องเผชิญกับเคราะห์กรรมอะไรบ้างก็ขอให้โชคชะตาเป็นผู้กําหนด  ขอกราบขอบพระคุณศาลที่เคารพเป็นอย่างสูง

จากคำแถลงของนายวนรัชต์ ทำให้เกิดการตั้งข้อสังเกตของกลุ่มผู้เสียหายในคดีนี้ว่า นายวนรัชต์ กำลังบอกใบ้ให้ผู้เสียหายทราบว่า การเรียกร้องค่าเสียหายที่เกิดขึ้นในคดีนี้ อาจมีปัญหาเกิดขึ้นกับทรัพย์สินของ STARK ในส่วนของบริษัท เฟ้ลปส์ ดอด์จ อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) จำกัด ที่ นายวนรัชต์ ระบุว่ากำลังถูกเจ้าหนี้รายใหญ่ให้เข้าสู่แผนฟื้นฟูกิจการ อาจไม่ได้รับการเยียวยาในส่วนนี้

อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ สื่อมวลชนได้นำเสนอกันอย่างแพร่หลายว่า เจ้าหนี้รายใหญ่ในคดี STARK นั้นคือ ธนาคารกสิกรไทย ซึ่งมีรายงานว่าที่ประชุมของคณะกรรมการ (บอร์ด) ของธนาคารกสิกรไทย หรือ KBank เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคมที่ผ่านมา ในฐานะเจ้าหนี้รายใหญ่อันดับ 1 ของบริษัท เฟ้ลปส์ ดอด์จ อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) จำกัด บริษัทในกลุ่มของ STARK ที่มียอดหนี้เบิกใช้แล้วจำนวน 9.2 พันล้านบาท ได้อนุมัติแผนฟื้นฟูกิจการของบริษัท เฟ้ลปส์ ดอด์จฯ

Back to top button