CRC-CPN ร่วง! วิตก “กลุ่มเซ็นทรัล” ส่ง “คาเดเว” เยอรมนี เข้าฟื้นฟูกิจการ
CRC-CPN ร่วง! กังวลกลุ่มเซ็นทรัล ส่งกลุ่มธุรกิจห้างหรู "คาเดเว" ในเยอรมนี ได้รับสิทธิในการบริหารแผนฟื้นฟูด้วยตนเอง หลังขาดทุนจากค่าเช่าที่เพิ่มขึ้น ยืนยัน CRC-CPN ไม่เกี่ยวข้อง
บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC ณ เวลา 10:56 น. อยู่ที่ระดับ 33.75 บาท ลบ 1.25 บาท หรือ 3.57% สูงสุดที่ระดับ 34.75 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 33 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 409.27 ล้านบาท
บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN อยู่ที่ระดับ 64.25 บาท ลบ 1.50 บาท หรือ 2.28% สูงสุดที่ระดับ 65 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 64 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 154.83 ล้านบาท
สำหรับราคาหุ้นปรับตัวลดลง ด้วยปัจจัยกังวลเกี่ยวกับ กลุ่มเซ็นทรัล ผู้ถือหุ้นใหญ่ในกลุ่มคาเดเว ผู้ดำเนินธุรกิจห้างสรรพสินค้าหรูในเยอรมนี ชี้แจงกรณีที่กลุ่มคาเดเวได้เข้าสู่กระบวนการฟื้นฟู โดยได้รับสิทธิในการบริหารแผนฟื้นฟูด้วยตนเอง (insolvency proceedings under self-administration) ในระหว่างกระบวนการดังกล่าว คณะผู้บริหาร ซึ่งนำโดยนายไมเคิล ปีเตอร์แซม จะยังคงปฏิบัติหน้าที่และควบคุมการดำเนินงานของธุรกิจเช่นเดิม และ ห้างสรรพสินค้าทั้ง 3 แห่ง ได้แก่ ห้างคาเดเว (KaDeWe) กรุงเบอร์ลิน, ห้างอัลสแตร์เฮาส์ (Alsterhaus) เมืองฮัมบูร์ก และห้างโอเบอร์โพลลิงเกอร์ (Oberpollinger) เมืองมิวนิก ก็ยังคงเปิดให้บริการตามปกติ
โดยการเข้าแผนการฟื้นฟูของกลุ่มคาเดเวครั้งนี้ เป็นผลจากกรอบกฏหมายเฉพาะในประเทศเยอรมนี โดยธุรกิจห้างสรรพสินค้าในเครือเซ็นทรัลที่อื่นในยุโรป ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องและยังคงดำเนินธุรกิจต่อไปตามปกติ การลงทุนในกลุ่มคาเดเว เป็นการลงทุนส่วนตัว (private investment) ของกลุ่มเซ็นทรัลทั้งสิ้น ไม่เกี่ยวข้องกับ บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC และบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN แต่อย่างใด
นายวิททอริโอ ราดิเช กรรมการ กลุ่มเซ็นทรัลยุโรป กล่าวว่า การเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูของกลุ่มคาเดเว ไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ เสถียรภาพทางการเงิน และความมั่นคงของธุรกิจอื่นๆ ของกลุ่มเซ็นทรัลในยุโรป กระบวนการดังกล่าวเป็นสถานการณ์เฉพาะของกลุ่มคาเดเว อันสืบเนื่องมาจากอัตราค่าเช่าที่สูงเกินมาตรฐานในทุกสาขาที่บริษัทดำเนินงานอยู่ และไม่เกี่ยวข้องกับความแข็งแกร่งทางการเงินของบริษัทแต่อย่างใด
กลุ่มเซ็นทรัลเชื่อมั่นว่ากระบวนการฟื้นฟูจะช่วยนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่ดีที่สุดต่อบริษัทและผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย กลุ่มเซ็นทรัลยังคงมุ่งมั่นในการสนับสนุนกลุ่มคาเดเว และธุรกิจห้างสรรพสินค้าทุกสาขาของเราในยุโรป เพื่อมอบบริการและประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้าของเราเช่นเดิม”
สำหรับผลการดำเนินงานของกลุ่มคาเดเวที่ผ่านมาในด้านยอดขายถือว่าเติบโตเป็นที่โดดเด่น โดยในปีงบประมาณสิ้นสุด กันยายน 2566 สามารถสร้างยอดขายกว่า 728 ล้านยูโร (2 หมื่น 8 พันล้านบาท) สูงสุดเป็นประวัติการณ์นับแต่ก่อตั้งบริษัทมา และเติบโตเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 24 เมื่อเทียบกับช่วงก่อนการระบาดของโควิด19 ในปี 2562
โดยธุรกิจที่กำลังเติบโต สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จในการลงทุนปรับปรุงร้านให้กลายเป็นห้างสรรพสินค้าลักชัวรี่ชั้นนำของโลก บริษัทมีผลกำไรก่อนค่าเช่าเป็นที่น่าพอใจ อยู่ในเกณฑ์ที่ดีเมื่อเทียบกับห้างชั้นนำอื่นๆ ในยุโรป แต่เนื่องจากภาระค่าเช่าที่เพิ่มขึ้นสูงจนอยู่ในระดับเกินกว่ามาตรฐานทั่วไปในตลาดมากในทั้งสามสาขา ทำให้บริษัทมีผลประกอบการขาดทุน สภาวะเงินเฟ้อที่พุ่งสูงอย่างก้าวกระโดด (hyperinflation) จากสงครามในยูเครน ทำให้ค่าเช่าปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 37 เมื่อเทียบกับปี 2562 ส่งผลให้บริษัทไม่สามารถทำกำไรได้
ทั้งนี้ ปัจจัยดังกล่าว ทำให้ฝ่ายบริหารของกลุ่มคาเดเวมีความจำเป็นต้องยื่นคำร้องต่อศาลแขวงชาร์ล็อตเต็นบูร์ก กรุงเบอร์ลิน เพื่อเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟู โดย ขอสิทธิในการบริหารแผนฟื้นฟูด้วยตนเอง (insolvency proceedings under self-administration) ซึ่งคำร้องดังกล่าวได้รับการอนุมัติแล้ว โดยนาย คริสเตียน กราฟ บร็อคดอร์ฟ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ดูแลทรัพย์สินชั่วคราว
“ที่ผ่านมากลุ่มเซ็นทรัลได้ให้การสนับสนุน และพยายามอย่างเต็มที่เพื่อหาทางออกเกี่ยวกับเรื่องอัตราค่าเช่าสูงของบริษัทมาโดยตลอด แต่ยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงใดๆ กับผู้ให้เช่าได้ ทั้งนี้กลุ่มเซ็นทรัลพร้อมที่จะเข้ามาสนับสนุน ให้วงเงินช่วยเหลือแก่บริษัทต่อไป หากบริษัทสามารถบรรลุข้อตกลงกับผู้ให้เช่าในการปรับโครงสร้างค่าเช่าให้ลดลงสอดคล้องกับราคาตลาด ซึ่งจะสามารถคลี่คลายปัญหา เพื่อให้กลุ่มคาเดเวได้สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้อย่างยั่งยืน” นายวิททอริโอ กล่าว
โดยการที่คำร้องขอฟื้นฟูกิจการได้รับการอนุมัติสิทธิในการบริหารแผนฟื้นฟูด้วยตนเองจากศาลแขวงชาร์ล็อตเต็นบูร์ก กรุงเบอร์ลิน เป็นสัญญาณที่ดีที่ทำให้ฝ่ายบริหารของกลุ่มคาเดเว ยังคงมีอำนาจในการควบคุมการบริหารกิจการ ในขณะที่มีการเจรจาปรับโครงสร้างภาระค่าเช่าที่สูงกว่ามาตรฐาน กลุ่มเซ็นทรัลยังคงมุ่งมั่นในการสนับสนุนกลุ่มคาเดเว และผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย เพื่อหาทางออกที่เป็นที่พอใจสูงสุดภายใต้กรอบของกฎหมายของประเทศเยอรมนี
ด้าน บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุว่า ห้างฯ KaDeWe ซึ่งมี Central Group เป็นผู้ถือหุ้น เข้าสู่แผนการฟื้นฟูจากค่าเช่าที่ปรับสูงขึ้น ทำให้เกิดผลขาดทุน ซึ่งการเข้าเป็นผลจากกรอบกฏหมายเฉพาะในประเทศเยอรมนี โดยธุรกิจห้างสรรพสินค้าในเครือเซ็นทรัลที่อื่นในยุโรป ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องและยังคงดำเนินธุรกิจต่อไปตามปกติ อย่างไรก็ตามการลงทุนในกลุ่มคาเดเวเป็นการลงทุนส่วนตัว (private investment) ของกลุ่มเซ็นทรัลทั้งสิ้น ไม่เกี่ยวข้องกับ CRC และ CPN แต่อย่างใด
อย่างไรก็ตามในแง่ CRC มีห้างฯ เดียวในยุโรปคือ Rinascente โดย CRC ถือหุ้น 100% และที่ผ่านมา contribute profit