SAMART พุ่งแรง 8% กางแผนปีนี้รายได้ 1.3 หมื่นล้าน ดันกำไร “นิวไฮ” รอบ 8 ปี

SAMART พุ่งแรง 8% กางแผนปีนี้รายได้ 1.3 หมื่นล้านบาท โต 30% ดันกำไร “นิวไฮ” รอบ 8 ปี รับทุกกลุ่มธุรกิจฟื้นตัว พร้อมลุยประมูลงานเพิ่ม พ่วงเล็งคลอดอีก 1 ธุรกิจใหม่


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (5 ก.พ. 67) ราคาหุ้นบริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAMART ล่าสุด ณ เวลา 14:45 น. อยู่ที่ระดับ 5.85 บาท บวก 0.45 บาท หรือ 8.33% สูงสุดที่ระดับ 6.00 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 5.30 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย  61.97 ล้านบาท

โดยก่อนหน้านี้นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ รองประธานกรรมการบริหาร ฝ่ายกลยุทธ์องค์กรและพัฒนาธุรกิจใหม่ SAMART เปิดเผยว่า ปีนี้กลุ่มสามารถคาดว่าจะมีกำไรสูงที่สุดจากการดำเนินงานในรอบ 7-8 ปีที่ผ่านมา และตั้งเป้าหมายรายได้ 13,000 ล้านบาท เติบโตมากกว่า 30% อีกทั้ง คาดจะใช้งบลงทุนประมาณ 4,000-5,000 ล้านบาท รวมถึงมีแผนที่จะดำเนินธุรกิจใหม่เพิ่มขึ้นอีก 1 ธุรกิจ และจะเริ่มเข้าประมูลงานภาครัฐได้กลางปีนี้

สำหรับสายธุรกิจ Digital ICT Solution นำโดย กลุ่มบริษัท สามารถเทลคอม จำกัด (มหาชน) หรือ SAMTEL ได้มีการเซ็นสัญญาโครงการใหม่ มูลค่ารวมกว่า 2,300 ล้านบาท ส่งผลให้มีมูลค่างานในมือปัจจุบัน รวมประมาณ 4,500 ล้านบาท โดยในปีนี้มีแผนเข้าร่วมประมูลโครงการใหม่มูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท และตั้งเป้ารายได้ 6,000 ล้านบาท เติบโต 30%  จากเป้าหมายเข้าประมูลงานใหม่เพิ่มขึ้น 7,000 ล้านบาท

ด้านสายธุรกิจ ยูทิลิตี้ ตั้งเป้ารายได้ 5,500 ล้านบาท เติบโต 23% ด้วยโอกาสทางธุรกิจหลายด้าน โดยเฉพาะจาก บริษัท สามารถ เอวิเอชั่น โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAV ผู้ให้บริการควบคุมการจราจรทางอากาศในประเทศกัมพูชาภายใต้ CATS คาดว่ารายได้จะเติบโตกว่า 30% จากปัจจัยสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวในระดับภูมิภาค ประกอบกับรัฐบาลกัมพูชามีนโยบายสนับสนุนภาคธุรกิจและการท่องเที่ยวอย่างจริงจัง ด้วยการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและการยกระดับสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ

ล่าสุดได้มีการเปิดให้บริการสนามบินนานาชาติเสียมราฐอังกอร์แห่งใหม่ ซึ่งมีศักยภาพในการรองรับนักท่องเที่ยวได้สูงสุดถึง 7 ล้านคน และภายในปีนี้จะมีการเปิดสนามบินนานาชาติดาราสาคร นอกจากนี้ บริษัทยังเห็นโอกาสในการขยายธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการบริหารสนามบินและวิทยุการบินในระดับภูมิภาคด้วย

 

ขณะที่ธุรกิจด้าน Power Construction & Services  ดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสถานีและสายส่งไฟฟ้าแรงสูง โดยบริษัท เทด้าและทรานเส็ค มีงานในมือปัจจุบันรวม 4,000 ล้านบาท และมีแผนที่จะเข้าประมูลในปีนี้อีกกว่า 3,500 ล้านบาท, โครงการ Direct Coding ตั้งเป้ารายได้ 981 ล้านบาท เติบโต 10% จากการเปิดโรงงานเบียร์แห่งใหม่และการขยายกำลังการผลิตของโรงงานเดิม เพื่อรองรับปริมาณการบริโภคที่มีแนวโน้มสูงขึ้นจากนโยบาย Free VISA และการขยายเวลาเปิดปิดสถานบันเทิง รวมถึงยังมีแผนที่จะขยายฐานธุรกิจบริการระบบพิมพ์รหัสควบคุมบนบรรจุภัณฑ์ หรือ Direct Coding ไปสู่การจัดเก็บภาษีสินค้าอื่น ๆ เช่น ยา และ น้ำมันที่ใช้ภายในประเทศ

 

และสายธุรกิจ Digital Communications ซึ่งธุรกิจ Digital Trunk Radio มีการเติบโตอย่างชัดเจนในปีก่อน โดยมีการรับรู้รายได้จากการจำหน่ายเครื่องวิทยุลูกข่ายและค่าใช้บริการ Air Time เพิ่มขึ้น 300% โดยปีนี้บริษัทมีแผนการขยายฐานผู้ใช้บริการให้กว้างขวางและครอบคลุมหน่วยงานผู้ให้บริการประชาชน ทั้งภาครัฐและเอกชน โดยตั้งเป้าจำนวนผู้ใช้บริการไม่ต่ำกว่า 120,000 ราย ด้านธุรกิจสายมูซึ่งเป็นตลาดที่มีโอกาสเติบโตสูง บริษัท Lucky Heng Heng ตั้งเป้าเป็นผู้นำในธุรกิจ Mutech ทั้งในและต่างประเทศ ด้วยบริการดูดวงออนไลน์และทำบุญออนไลน์

Back to top button