BEM ดีดบวก 3% โบรกเชียร์ซื้อเป้า 10.40 บ. ลุ้นกำไร Q4/66 โตเกินคาด รับผู้โดยสารนิวไฮ

BEM ดีดบวก 3% โบรกเชียร์ซื้อเป้า 10.40 บาท ลุ้นกำไรไตรมาส 4/66 โตแรงกว่าประมาณการ 620-700 ล้านบาท รับภาคท่องเที่ยวฟื้นตัว ดันผู้โดยสารรถไฟฟ้านิวไฮ 4.2 แสนเที่ยวต่อวัน คาดทั้งปี 66 กำไรแตะ 3.5 พันล้านบาท โตจากปีก่อน 42%


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(6 ก.พ.67) ราคาหุ้นบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ณ เวลา 10:20 น.อยู่ที่ระดับ 7.50 บาท บวก 0.25 บาท หรือ 3.45% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 145.32 ล้านบาท

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) คงคำแนะนำ “ซื้อ” หุ้น BEM ราคาเป้าหมายที่ 10.40 บาท เนื่องจากประเมินว่าผลประกอบการไตรมาส 4/2566 (ต.ค.-ธ.ค. 2566) จะเติบโตดีกว่าที่คาดไว้ โดยจะมีกำไรสุทธิที่ 830 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 38% สูงกว่าประมาณการเดิมที่ 620-700 ล้านบาท

ทั้งนี้สาเหตุเป็นเพราะรายได้จะเติบโต 8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 1% จากไตรมาสก่อนหน้า โดยมีปัจจัยหนุนจากการเดินทางที่กลับเข้าสู่ภาวะปกติ และภาคการท่องเที่ยวฟื้นตัว ส่งผลให้ผู้ใช้บริการ BEM เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะผู้โดยสารรถไฟฟ้าซึ่งทำสถิติสูงสุดใหม่ (นิวไฮ) ที่ 4.2 แสนเที่ยวคนต่อวัน เพิ่มขึ้น 19% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 1% จากไตรมาสก่อนหน้า มีผู้ใช้ทางด่วนที่ 1.1 ล้านเที่ยวต่อวัน เพิ่มขึ้น 2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 1% จากไตรมาสก่อนหน้า อีกทั้งทำให้อัตรากำไรขั้นต้น (Gross profit margin) ดีขึ้นมาอยู่ที่ 44.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 39.1% และไตรมาสก่อนหน้าอยู่ที่ 42.8%

ขณะที่ค่าใช้จ่ายโดยรวมลดลง คือ ค่าใช้จ่ายซ่อมบำรุงทางด่วนบางส่วนมีการเลื่อนออกไปเป็นปี 2567 ค่าซ่อมแซมรถไฟฟ้าที่อ่อนตัวลงตามดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) รวมถึงค่าไฟปรับตัวลง อย่างไรก็ตาม กำไรปกติในช่วงไตรมาส 4/2566 จะปรับตัวลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า โดยสาเหตุหลักเป็นเพราะในไตรมาส 3/2566 BEM มีรายได้จากเงินปันผลจาก บริษัท ทีทีดับบลิว จำกัด (มหาชน) หรือ TTW รวม 221 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม บล.ดาโอฯ ยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2566 (ม.ค.-ธ.ค. 2566) ไว้ที่ 3.2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 33% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่หากกำไรในไตรมาส 4/2566 เป็นไปตามที่คาดการณ์ จะส่งผลให้กำไรสุทธิปี 2566 เพิ่มเป็น 3.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 42% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และสูงกว่าที่ บล.ดาโอฯ เคยประมาณการไว้ 6%

ขณะเดียวกัน ยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2567 (ม.ค.-ธ.ค. 2567) ไว้ที่ 3.7 พันล้านบาท เติบโต 14% จากปี 2566 โดยคงสมมติฐานผู้ใช้ทางด่วนที่ 1.16 ล้านเที่ยวต่อวัน เพิ่มขึ้น 4% จากปี 2566 และผู้โดยสารรถไฟฟ้าที่ 4.3 แสนเที่ยวคนต่อวัน เพิ่มขึ้น 9% ใกล้เคียงกับเป้าหมายที่ BEM ตั้งไว้ว่าจะมีผู้ใช้ทางด่วน 1.1-1.2 ล้านเที่ยวต่อวัน และผู้โดยสารรถไฟฟ้าที่ 4.3-4.5 แสนเที่ยวคนต่อวัน โดยมีปัจจัยหนุนจากการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ตามแนวสายทางรถไฟฟ้า การเปิดบริการรถไฟฟ้าสายใหม่ และภาคท่องเที่ยวทยอยฟื้นตัว

สำหรับผลประกอบการช่วงไตรมาส 1/2567 (ม.ค.-มี.ค. 2567) ประเมินว่ากำไรสุทธิจะดีขึ้นกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามการฟื้นตัวของผู้โดยสารรถไฟฟ้าที่มีแนวโน้มทำนิวไฮต่อเนื่อง แต่อาจทรงตัวจากไตรมาสก่อนหน้า จากค่าใช้จ่ายซ่อมบำรุงทางด่วนบางส่วนที่มีโอกาสเลื่อนมารับรู้ในไตรมาส 1/2567 นอกจากนี้ BEM ยังมีปัจจัยหนุนในอนาคตจากแนวโน้มการได้รับงานโครงการทางพิเศษยกระดับชั้นที่ 2 (งามวงศ์วาน-พระราม 9) หรือ Double Deck วงเงิน 3.5 หมื่นล้านบาท และการเริ่มขั้นตอนเจรจาเพื่อรับงานการดำเนินงานและบำรุงรักษา (O&M) โครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) คาดว่าจะได้เห็นความคืบหน้าในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2567

Back to top button