วิกฤตตะวันออกกลาง-คาบสมุทรเกาหลี หนุนราคาทองปิดพุ่งกว่า 13 ดอลล์
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 13 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (6 ม.ค.) เนื่องจากสถานการณ์ตึงเครียดทั้งในตะวันออกกลางและคาบสมุทรเกาหลี ยังคงเป็นแรงกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 13.5 ดอลลาร์ หรือ 1.25% ปิด (6 ม.ค.) ที่ระดับ 1,091.90 ดอลลาร์/ออนซ์, สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 0.5 เซนต์ หรือ 0.04% ปิดที่ 13.976 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.ร่วงลง 15 ดอลลาร์ หรือ 1.69% ปิดที่ 875.00 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำพุ่งขึ้นเพราะได้แรงหนุนจากวิกฤตทางการเมืองทั้งในตะวันออกกลางและคาบสมุทรเกาหลี โดยเกาหลีเหนือเผยทดสอบระเบิดไฮโดนเจนเมื่อวานนี้ ซึ่งถือเป็นการทดสอบด้านนิวเคลียร์ครั้งที่ 4 ของประเทศ
ส่วนความขัดแย้งระหว่างซาอุดิอาระเบียและอิหร่านได้บานปลายกลายเป็นความขัดแย้งทางการทูตของหลายประเทศในตะวันออกกลาง หลังจากซาอุดิอาระเบียสั่งประหารชีวิตนักโทษคดีก่อการร้าย 47 ราย รวมถึง นิมร์ อัลนิมร์ อิหม่ามนิกายชีอะห์ที่ถูกระบุว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ประท้วงต่อต้านรัฐบาลเมื่อปี 2554
การประหารชีวิตนักโทษคนสำคัญดังกล่าวส่งผลให้กลุ่มผู้ประท้วงได้ก่อเหตุโจมตีสถานทูตซาอุดิอาระเบียในกรุงเตหะรานและสถานกงสุลในเมืองมาชฮัดของอิหร่าน ซึ่งสร้างความโกรธแค้นให้กับซาอุดิอาระเบียจนต้องประกาศตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับอิหร่าน