NAT วิ่งต่อ 6% รับแผนประมูลงาน 2 พันล้าน-จับมือพันธมิตรลุย “ไซเบอร์ ซีคิวริตี้”

NAT ไอพีโอน้องใหม่ วิ่งต่อ 6% รับแผนลุยประมูลงานภาครัฐเพิ่ม 2,000 ล้านบาท ตั้งเป้ารายได้โตกว่า 30% ทุบสถิติ 3 ปีซ้อน พร้อมจับมือพันธมิตรต่างชาติลุยรับงาน “ไซเบอร์ ซีคิวริตี้” กลุ่มธุรกิจพลังงานและสื่อสาร


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (16 ก.พ.67) ราคาหุ้น บริษัท แนท แอบโซลูท เทคโนโลยีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ NAT ณ เวลา 10:07 น. อยู่ที่ระดับ 7.35 บาท บวก 0.45 บาท หรือ 6.52% สูงสุดที่ระดับ 7.45 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 7 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 331.33 ล้านบาท

นายสุธี อภิชนรัตนกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร NAT เปิดเผยว่า หลังจากเข้าเทรดในตลาดฯ วันแรก มีความมั่นใจมากขึ้นที่นักลงทุนตอบรับอย่างดี เงินจากการเข้าระดมทุนทั้งหมดจะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ และใช้ในการว่าจ้างบุคลากรเพื่อเพิ่มโอกาสในการขยายฐานลูกค้าใหม่ของบริษัทในอนาคต เสริมศักยภาพในการรับงานได้มากขึ้น และมีขนาดงานที่ใหญ่มากขึ้น จากเดิมที่สามารถรับงานได้แค่มูลค่าประมาณ 30-50 ล้านบาทต่องานเท่านั้น

ส่วนแผนการจับมือร่วมกับพันมิตรต่างประเทศเพิ่มเติม เพื่อขยายขีดความสามารถต่อยอดกับโครงการที่บริษัทดำเนินการอยู่ โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างพูดคุย 2-3 ราย เกี่ยวกับทางด้าน Cyber Sercurity คาดว่าจะเห็นภาพความร่วมมือในช่วงไตรมาส 2/67 ปีนี้ ล่าสุดบริษัทมีงานในมือเพื่อเข้าไปพัฒนาไซเบอร์ซีคิวริตี้ในกลุ่มธุรกิจพลังงาน รวมถึงจะเข้าไปพัฒนา Software Development ให้กับบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด หรือ NT

โดยปัจจุบันสัดส่วนงานโครงการของบริษัทแบ่งเป็น งานภาครัฐจำนวน 85% งานเอกชนจำนวน 15% และบริษัทมีอัตราการได้งานจากการเข้าประมูลในระดับสูง ด้วยจุดแข็งของบริษัทที่ให้บริการโซลูชันที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ด้วยความเชี่ยวชาญ และผลิตภัณฑ์ทางเทคโนโลยีจากบริษัทระดับโลก ซึ่งความสามารถของบริษัทและโอกาสที่จะเข้ามาในอนาคต จะส่งผลให้บริษัทมี Backlog เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง สอดรับกับศักยภาพทางการเงินของบริษัทจากการระดมทุนและสามารถสร้างสถิติสูงสุดทั้งรายได้และกำไรในปีนี้ได้อย่างแน่นอน

นายสหทัศน์ ตรีเมธสุนทร ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ NAT กล่าวว่า ในปี 67 บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโต 30% จากปีก่อน ที่ทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง 3 ปี และคาดว่าจะยังคงมีการเติบโตนิวไฮต่อเนื่อง รายได้หลักยังมาจาก 1.Cloud Solution ที่เป็นงาน Infratech ที่บริษัทมีความเชี่ยวชาญ และ 2.Cyber Sercurity รวมในส่วนของ Data Center Solution ที่ในอนาคตคาดการณ์ว่า Cyber Sercurity จะมีการเติบโตมากขึ้น ขณะที่ Software Development ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น ในปีนี้ก็อาจจะเห็นทิศทางที่ชัดเจนขึ้น และคาดว่าจะเห็นภาพการเติบโตตั้งแต่ช่วงปีหน้าเป็นต้นไป

ทั้งนี้ บริษัทมีแผนที่จะเข้าประมูลงานอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ไตรมาส 1/67 เป็นต้นไป โดยมีแผนเข้าประมูลและรับงานโครงการพัฒนาระบบเทคโนโลยีของทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชน มูลค่างานรวมประมาณ 2,000 ล้านบาท ซึ่งในบางโครงการบริษัทได้มีการเข้าไปศึกษาระบบการดำเนินงาน ความต้องการของลูกค้า รวมถึงพิจารณาความเป็นไปได้ในการพัฒนาระบบร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ไว้แล้ว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นหน่วยงานภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ ที่เป็นลูกค้าเดิม จะเป็นโครงการด้านพลังงาน ที่อยู่ในแผนที่จะเข้าประมูล ลักษณะเป็นงาน Infratech, Cyber Sercurity และ Software Development

ส่วนงานโครงสร้างระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร บริการด้านเทคโนโลยีครบวงจรของประเทศไทย คาดว่าจะได้งานโครงการจากการเข้าร่วมประมูลประมาณมากกว่า 80% เนื่องจากบริษัทจะเลือกเข้าประมูลในงานที่มีโอกาสสูงในการได้งาน ส่วนมาร์จิ้นรวมปกติจะอยู่ที่ 15% โดยปัจจุบันมูลค่างานประมาณ 600 ล้านบาท จะสามารถรับรู้รายได้ประมาณ 90% เพราะมีบางส่วนเป็นงานต่อเนื่องระยะยาว ทำให้มีบางส่วนรับรู้รายได้ในปี 68

ขณะที่ นายสมศักดิ์ ศิริชัยนฤมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ APM ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า APM มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในความสำเร็จของ NAT โดยการเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในครั้งนี้ จะส่งเสริมให้บริษัทสามารถสร้างการเติบโตอย่างก้าวกระโดดได้ตามเป้าหมายที่วางไว้

“หลังจากการระดมทุน จะทำให้ศักยภาพของ NAT ที่มีฐานะการทางการเงินที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว ยิ่งเติบโตยั่งยืนมากขึ้น จากการเพิ่มจำนวนบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เพื่อเพิ่มโอกาสการเข้ารับงานระบบโครงสร้างของภาครัฐและเอกชน ที่มีแนวโน้มความต้องการพัฒนาประสิทธิภาพของระบบมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงเชื่อว่า NAT จะเป็นหุ้นที่น่าสนใจ และเป็นหุ้น Growth Stock อีกหนึ่งตัวที่น่าจับตา ทั้งนี้บริษัทมีนโยบายจ่ายปันผลให้ผู้ถือหุ้นไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิหลังหักเงินสำรองตามกฎหมาย รวมถึงเงินสำรองอื่นตามที่บริษัทกำหนด” นายสมศักดิ์ กล่าว

ส่วนนายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จํากัด (มหาชน) หรือ FSS ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ NAT เปิดเผยว่า บริษัทเชื่อว่า NAT จะได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั้งในการซื้อขายวันแรกและช่วงต่อจากนี้ จากการกำหนดราคาเสนอขายที่เหมาะสม ซึ่งสอดคล้องกับภาวะการลงทุนในปัจจุบัน และปัจจัยพื้นฐานทางธุรกิจที่มั่นคง ฐานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง มีความพร้อมด้านกระแสเงินสด และกำไรสะสมที่อยู่ในระดับดี ประกอบกับความสามารถในการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพสามารถรักษาอัตรากำไรขั้นต้นและอัตรากำไรสุทธิให้อยู่ในระดับที่ดีมาโดยตลอด นอกจากนี้บริษัทมีความพร้อมขยายธุรกิจในอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง อีกทั้งผู้ถือหุ้นรายใหญ่ทั้งหมดทำสัญญาไม่จำหน่ายหุ้นโดยสมัครใจกับ FSS ทุกจำนวน

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) คาดการณ์กำไรสุทธิ CAGR ที่ 28% ในปี 66-68 โดยเพิ่มขึ้นจาก 101 ล้านบาท ในปี 65 เป็น 212 ล้านบาท ในปี 68 จากแบ็กล็อกที่มีมูลค่า 551 ล้านบาท และโอกาสในการประมูลงานที่จะเพิ่มขึ้นในปี 67 ที่จะมาช่วยการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญสอดคล้องกับการประมาณการ

โดย BYD เลือกประเมินมูลค่าหลักทรัพย์ของ NAT ด้วยวิธี PER ได้ราคาเหมาะสมที่ 7.80-8.90 บาท/หุ้น อิง PER ปี 67 ที่ 15-17 เท่า โดยเชื่อว่าหลังจากเพิ่มทุน IPO บริษัทจะมีโอกาสรับงานที่มีมูลค่าได้เพิ่มมากขึ้นทั้งในรูปแบบของงานวางระบบติดตั้ง Software, Data center และงานติดตั้งอุปกรณ์เทคโนโลยี เช่น อุปกรณ์ Cybersecurity และ Server

Back to top button