“พอลล่า ชูการ์ต” เดินหน้าฟ้อง “แอน จักรพงษ์” กล่าวหาใช้เวทีมิสยูนิเวิร์สรับสินบน
“พอลล่า ชูการ์ต” อดีตประธานองค์กร Miss Universe ประกาศฟ้อง ‘แอน จักรพงษ์’ หลังโดนกล่าวหาฉ้อโกงและรับอามิสสินจ้าง ชี้ไม่สามารถยอมรับคำกล่าวหาที่รุนแรงได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ก่อนหน้านี้ “พอลล่า ชูการ์ต” (Paula Shugart) ประกาศยุติบทบาทในฐานะประธานองค์กรมิสยูนิเวิร์ส (MUO) กว่า 23 ปี กลางเวที มิสยูนิเวิร์ส 2023 (Miss Universe 2023) ที่จัดขึ้น ณ ประเทศเอลซัลวาดอร์
ล่าสุด “พอลล่า ชูการ์ต” ก็สร้างประเด็นช็อกหนักให้กับคอนางงามอีกครั้ง โดยออกแถลงการณ์ผ่านบัญชีอินสตาแกรมส่วนตัว realpaulashugart เป็นภาษาไทย ชี้แจงว่าถูกกล่าวหาฉ้อโกงและรับสินบน พร้อมเตรียมดำเนินคดีกลับ
โดยโพสต์ภาพที่ระบุข้อความว่า “หลังจากที่ดิฉันได้ประกาศลาออกจากตำแหน่งประธานองค์กรมิสยูนิเวิร์สเมื่อเดือนพฤศจิกายน ดิฉันเลือกที่จะไม่แสดงความคิดเห็นใด ๆ เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงภายในองค์กรมิสยูนิเวิร์ส พร้อมยังยินดีที่จะช่วยเหลือทางองค์กรและผู้ที่เกี่ยวข้องทุกท่านด้วยคำแนะนำ คำชี้แนะ จากประสบการณ์และความรู้ที่สั่งสมมาเป็นเวลาอันยาวนาน”
“ดิฉันจำเป็นที่จะต้องออกมาแถลงในครั้งนี้ เพราะทางเจ้าขององค์กรมิสยูนิเวิร์ส แอน จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ได้กล่าวหาดิฉันด้วยข้อมูลอันเป็นเท็จ และทำให้ดิฉันเสื่อมเสียชื่อเสียงเป็นอย่างมาก”
“โดยปกติแล้วดิฉันเลือกที่จะเพิกเฉยต่อคำพูดพวกนั้น แต่การกล่าวหาว่าดิฉันฉ้อโกงและรับอามิสสินจ้างเพื่อให้ประเทศใดประเทศหนึ่งได้รับตำแหน่งมิสยูนิเวิร์สในการประกวดมิสยูนิเวิร์สแต่ละปี”
“คำกล่าวนี้ไม่ใช่เพียงแต่เป็นการหมิ่นประมาทในตัวดิฉันเท่านั้น แต่ยังเป็นการลดทอนคุณค่าของผู้หญิงทุกคนที่ได้ครองมงกุฎมิสยูนิเวิร์สที่ผ่านมาทั้งหมดว่าพวกเธอนั้นเป็นมิสยูนิเวิร์สที่ซื้อตำแหน่งมาโดยไม่ได้เข้าสู่ระบบของการประกวดอย่างเป็นธรรม”
“ดิฉันไม่สามารถยอมรับคำกล่าวหาที่รุนแรงอย่างไร้การยังคิดเยี่ยงนี้ได้ เพราะการกระทำเช่นนี้เป็นการดูถูกความเป็นมิสยูนิเวิร์สและผู้ที่ได้รับตำแหน่ง”
“ดิฉันเตรียมดำเนินการทางกฏหมายในประเทศไทย ถึงแม้ว่าการดำเนินการทางกฎหมายของดิฉันจะเป็นเพียงแค่หนึ่งคดีของการฟ้องร้องจากหลาย ๆ คดีที่ผู้บริหารสูงสุดของ บริษัทเจเคเอ็น (JKN) กำลังเผชิญอยู่ก็ตาม”
“แต่การออกมาประกาศความจริงและประณามต่อข้อกล่าวหาที่เป็นเท็จ คือ สิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการปกป้องมิสยูนิเวิร์สและชื่อเสียงขององค์กร ก่อนที่จะนำเรื่องนี้เข้าสู่กระบวนการศาลยุติธรรมในราชอาณาจักรไทยต่อไป และฉันขอสงวนสิทธิ์ในการเรียกร้องค่าเสียหายทั้งหมด”
“ดิฉันไม่มีความตั้งใจที่จะเข้าไปร่วมในข้อถกเถียงข้อโต้แย้งทางสื่อโซเชียล ทุกคนที่รู้จักดิฉันดีย่อมรู้ความจริงทั้งหมดและสิ่งที่ดิฉันยืนหยัดอย่างมั่นคงมาโดยตลอด ดิฉันขอให้ประสบการณ์ทั้งหมดของดิฉันที่ทำงานร่วมกับผู้หญิงที่น่าชื่นชมทั่วโลกเหล่านั้นเป็นเครื่องพิสูจน์ตัวตนและเนื้อแท้ในตัวดิฉันเอง”
งานนี้ก็ทำเอาเหล่าแฟนนางงามลุกเป็นไฟ เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์สนั่น ซึ่งบทสรุปของเรื่องราวจะเป็นอย่างไร คงต้องติดตามกันต่อไป