COM7 ร่วง 7% โบรกหั่นเป้า 20 บ. หลังกำไรปี 66 เหลือ 2.9 พันล้านบาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (23 ก.พ. 67) ราคาหุ้น บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) หรือ COM7 ณ เวลา 11:03 น. อยู่ที่ระดับ 20.90 บาท ลบ 1.60 บาท หรือ 7.11% ราคาสูงสุดที่ระดับ 21.50 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 20.80 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย941.23 ล้านบาท

สำหรับราคาหุ้นปรับตัวลงมาต่อนเนื่อง หลังจากบริษัทรายงานผลประกอบการปี 66 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 2,857.17 ล้านบาท ลดลง 180.5 ล้านบาท หรือลดลง 5.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 3,037.71 ล้านบาท เนื่องจากการเติบโตของรายได้น้อยกว่าที่คาดการณ์ จากการชะลอการใช้จ่ายของผู้บริโภคตลอดทั้งปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงสิ้นปีซึ่งคาดว่าจะเป็นช่วง High Season ของบริษัทฯ ประกอบกับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ บริษัทเตรียมจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล จากงวดดำเนินงานวันที่ 1 ม.ค. 66 ถึงวันที่ 31 ธ.ค. 66 เป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.70 บาท กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 07 มี.ค. 67 และกำหนดจ่ายวันที่ 10 พ.ค. 67

บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ปรับคำแนะนำลงเป็น “ขาย” หุ้น COM7 (จากเดิมซื้อ) และปรับราคาเป้าหมายลงเป็น 20.00 บาท อิง PER ปี 67 อยู่ที่ 16 เท่า (เดิมราคาเป้าหมาย 30.00 บาท อิง PER ปี 67 อยู่ที่ 21 เท่า) โดยเป็นผลจากการปรับกำไรสุทธิ และ de-rate PER ลง เพื่อสะท้อนอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ที่จะลดลงตามการแข่งขันที่สูงในช่วงที่เศรษฐกิจอ่อนแอ

โดยบริษัทรายงานกำไรสุทธิไตรมาส 4/66 อยู่ที่ 668 ล้านบาท ลดลง 27% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่เพิ่มขึ้น 9% จากไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 933 ล้านบาท สาเหตุจาก 1.) รายได้ที่ขยายตัวต่ำ โดยขยายตัวเพียง 7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และขยายตัว 23% จากไตรมาสก่อนหน้า ตามการบริโภคที่ชะลอตัว 2.) อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ลดลงเป็น 11.6% จากการส่งเสริมการขาย และ 3.) ค่าใช้จ่ายดำเนินงานเพิ่มขึ้น โดยฝ่ายวิเคราะห์ปรับกำไรสุทธิปี 67 ลง -16% มาอยู่ที่ 3.0 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สาเหตุจากการปรับลดรายได้และอัตรากำไรขั้นต้นรวมถึงเพิ่มสัดส่วนค่าใช้จ่าย (SG&A/sale )

นอกจากนี้ ยังประเมินกำไรสุทธิไตรมาส 1/67 จะขยายตัวต่ำ สาเหตุจากรายได้ที่ได้ผลบวกมาตรการ e-Receipt ได้รับผลกระทบจากค่าใช้จ่ายทางตลาดที่สูง และค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น อีกทั้งราคาหุ้นอ่อนแอกว่าตลาด (underperform SET -19%) ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา เนื่องจากความกังวลต่อต้นทุนทางการเงินที่เพิ่ม

ทั้งนี้ ฝ่ายวิเคราะห์แนะนำ “ขาย” สาเหตุจากผลการดำเนินงานที่จะขยายตัวต่ำในปี 67, อัตรากำไรขั้นต้นที่จะยังไม่กลับมาดีขึ้นตามเศรษฐกิจที่ยังชะลอตัว โดยเฉพาะในครึ่งปีแรกของปี 67 ขณะที่ผลบวกจากการเข้าซื้อหุ้น DUO7 คืนจาก บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SABUY ยังค่อนข้างจำกัด