จับตาราคาน้ำมัน-ศก.จีน SET พรุ่งนี้เสี่ยงปรับลงต่อ
บล.ฟิลลิป มองนวโน้มตลาดหุ้นไทยในวันพรุ่งนี้ (8 ม.ค.) คาดว่าหากปัจจัยจากจีนและปัจจัยราคาน้ำมันยังคงกดดันอยู่นั้นจะส่งผลให้มีโอกาสปรับตัวลดลงได้อีก แต่หากตลาดเกิด Technical Rebound จะมี Upside ในกรอบจำกัดเท่านั้น
น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) เปิดเผยถึงตลาดหุ้นไทยวันนี้ (7 ม.ค.) ปรับตัวลดลงแรง โดยเฉพาะในช่วงท้ายตลาด จากแรงขายหุ้นขนาดใหญ่ที่เพิ่มขึ้นหลังจากตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดปรับตัวลดลง และดาวโจนส์ฟิวเจอร์ปรับตัวลงราว 400 จุด โดยเป็นผลมาจากความกังวลการชะลอตัวอย่างต่อเนื่องของเศรษฐกิจในจีน และราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง โดยการปรับตัวลดลงของราคาน้ำมันนั้นจะเป็นปัจจัยที่ถ่วงดัชนีตลาดหุ้นไทยอย่างมาก
ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียวันนี้ได้ปรับตัวลดลงเช่นเดียวกับตลาดหุ้นไทย ซึ่งปัจจัยที่มากระทบตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียยังคงเป็นปัจจัยจากเศรษฐกิจจีนและราคาน้ำมันเช่นเดียวกับตลาดหุ้นไทย
ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นไทยในวันพรุ่งนี้ (8 ม.ค.) คาดว่าหากปัจจัยจากจีนและปัจจัยราคาน้ำมันยังคงกดดันอยู่นั้นจะส่งผลให้มีโอกาสปรับตัวลดลงได้อีก แต่หากตลาดเกิด Technical Rebound จะมี Upside ในกรอบจำกัดเท่านั้น ทั้งนี้จะต้องติดตามแนวโน้มของตลาดหุ้นจีนที่จะกลับมาเปิดซื้อขายในวันพรุ่งนี้ หลังจากที่วันนี้ถูกระงับการซื้อขายหลังใช้เซอร์กิตเบรกเกอร์เนื่องจากดัชนีร่วงกว่า 7% ขณะที่ตั้งแต่ตลาดหุ้นจีนเปิดทำการมา 4 วันในปีนี้ ตลาดได้ปรับตัวลงแรงและมีการหยุดพักการซื้อขายไปแล้ว
อีกทั้งอยากให้นักลงทุนระมัดระวังการลงทุนในตลาดหุ้นไทยมากขึ้น เนื่องจากปัจจุบันปัจจัยลบมีผลอย่างมาก ทำให้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลง โดยแนะนำนักลงทุนจำกัดพอร์ตการลงทุนให้มีการลงทุนในตลาดหุ้นไทยในสัดส่วน 25-30% และหากจะทยอยซื้อสะสมนั้นแนะนำให้ทยอยซื้อสะสมในหุ้นกลุ่มที่ให้เงินปันผลสูงที่ราคาหุ้นได้ปรับตัวลดลงมาค่อนข้างมาก ได้แก่ ADVANC และ AP พร้อมให้แนวต้าน 1,240 จุด แนวรับ 1,200 จุด
หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับแรก
ADVANC ปิดที่ 134.50 บาท ลดลง 3.00 บาท
PTT ปิดที่ 209.00 บาท ลดลง 19.00 บาท
JAS ปิดที่ 2.84 บาท ลดลง 0.30 บาท
BDMS ปิดที่ 21.50 บาท ลดลง 0.60 บาท
SCC ปิดที่ 412.00 บาท ลดลง 20.00 บาท
ที่มา: สำนักข่าวอินโฟเควสท์