ดาวโจนส์ปิดร่วงอีก 392 จุด! ตลาดวิตกหุ้นจีน-ราคาน้ำมันร่วง
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ (7 ม.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในตลาดหุ้นจีน หลังจากที่คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของจีนประกาศระงับการซื้อขายเมื่อวานนี้ อันเนื่องจากการร่วงลงอย่างหนักของดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิต นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิด (7 ม.ค.) ที่ 16,514.10 จุด ลดลง 392.41 จุด หรือ -2.32% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,689.43 จุด ลดลง 146.34 จุด หรือ -3.03% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,943.09 จุด ลดลง 47.17 จุด หรือ -2.37%
ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างตื่นตระหนก เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับสัญญาณที่บ่งชี้ถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน โดยล่าสุดตลาดหลักทรัพย์ของจีนได้ประกาศระงับการซื้อขายเมื่อวานนี้ ตามกลไกเซอร์กิตเบรกเกอร์ ภายหลังดัชนีหุ้นร่วงลงไปกว่า 7%
ทั้งนี้ นับเป็นครั้งที่ 2 ในสัปดาห์นี้ที่จีนประกาศใช้เซอร์กิต เบรกเกอร์เพื่อหลีกเลี่ยงความผันผวนของตลาด โดยสาเหตุหลักที่ทำให้ตลาดหุ้นร่วงลงอย่างหนักนั้น มาจากการที่ธนาคารกลางจีนปรับลดค่ากลางเงินหยวนลงสู่ระดับระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปีเมื่อวานนี้
อย่างไรก็ตาม เมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของจีน (CSRC) ประกาศระงับการใช้เซอร์กิตเบรกเกอร์ โดยมีผลตั้งแต่วันศุกร์นี้ ซึ่งการประกาศระงับใช้เซอร์กิตเบรกเกอร์มีขึ้น หลังจากที่เพิ่งมีการนำมาตรการดังกล่าวมาใช้ในตลาดหุ้นจีนได้เพียง 4 วัน
นายเติ้ง เขอ โฆษก CSRC ระบุในแถลงการณ์ว่า “ด้วยเหตุที่ในขณะนี้ ผลกระทบเชิงลบของมาตรการเซอร์กิตเบรกเกอร์มีมากกว่าผลในเชิงบวก ทางคณะกรรมการฯ จึงตัดสินใจที่จะระงับการใช้เซอร์กิตเบรกเกอร์ เพื่อรักษาเสถียรภาพในตลาด”
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังคงได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง อันเป็นผลมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับอุปทานพลังงานที่สูงเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณจากข้อมูลล่าสุดที่ระบุว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 1 ม.ค. พุ่งขึ้น 17,000 บาร์เรล สู่ระดับ 9.219 ตรงข้ามกับที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะลดลง
หุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มเทคโนโลยีอ่อนแรงลง โดยหุ้นซิตี้กรุ๊ปร่วงลงกว่า 4.2% หุ้นเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ดิ่งลง 4% ขณะที่หุ้นแอปเปิลร่วงลงกว่า 4.2% และหุ้นยาฮูทรุดฮวบลง 6.2%, หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงตามราคาน้ำมันดิบ โดยหุ้นเชฟรอนปรับตัวลง 3.5% และหุ้นอานาดาร์โค ปิโตรเลียร่วงลง 8.4%
นักลงทุนจับตาดูกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนธ.ค.ในวันนี้ ส่วนเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่แล้วซึ่งสิ้นสุดวันที่ 2 ม.ค. ปรับตัวลดลง 10,000 ราย สู่ระดับ 277,000 ราย ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 275,000 ราย