CHOW วิ่งชนซิลลิ่ง! ลุ้นกำไรปี 67 โตต่อ โชว์ฐานทุนแกร่ง พร้อมขยายธุรกิจต่อเนื่อง
ราคาหุ้น CHOW วิ่งชนซิลลิ่ง จับตาผลงานปีนี้โดดเด่นต่อเนื่องจากปีก่อน รับธุรกิจไฟฟ้า-เหล็กเติบโต พร้อมโชว์ฐานทุนแข็งแกร่งหนุนบริษัทขยายธุรกิจเพิ่มการเติบโตต่อเนื่อง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 มี.ค.67) ราคาหุ้น บริษัท เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ จำกัด (มหาชน) หรือ CHOW ณ เวลา 10:45 น. อยู่ที่ระดับ 2.88 บาท บวก 0.66 บาท หรือ 29.73% สูงสุดที่ระดับ 2.88 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 2.26 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 25.81 ล้านบาท
โดยราคาหุ้น CHOW ปรับตัวเพิ่มขึ้นแรงทำจุดสูงสุดของวัน (ซิลลิ่ง) หลัง นายปรมัตถ์ จุฬวนิช ประธานเจ้าหน้าที่ด้านการเงิน CHOW เปิดเผยถึงแนวโน้มธุรกิจของ CHOW ในปี 67 ว่า มีทิศทางเติบโตอย่างโดดเด่นต่อเนื่องจากปี 66 ทั้งธุรกิจผลิตเหล็ก และธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar) หลังจากที่ปีก่อนหน้าทางฝ่ายบริหารได้ปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจ จนสามารถสร้างผลประกอบการให้เติบโตมาเป็นลำดับ โดยในธุรกิจเหล็กได้ปรับมาเป็นผู้รับจ้างผลิตเหล็กแท่งบิลเลตตามคำสั่งซื้อของลูกค้า (OEM) ทั้งยังขยายผลิตภัณฑ์ไปยังเหล็กแปรรูปอีกหลายประเภทภายใต้มาตรฐานอุตสาหกรรม จนสร้างมูลค่าเพิ่มให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างโดดเด่นในปี 66
ส่วนธุรกิจพลังงานทดแทนในปี 66 ได้ร่วมลงทุนกับกับกองทุน BlackRock กองทุนอันดับหนึ่งของโลก เพื่อลงทุนในการประกอบธุรกิจให้บริการให้คำปรึกษาและติดตั้งโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทย โดยได้เข้าถือหุ้นในกลุ่มการดำเนินธุรกิจโรงไฟฟ้าในประเทศไทยจำนวน 49% ของทุนจดทะเบียน ซึ่งการเข้าร่วมลงทุนกับกองทุน BlackRock นอกจากจะช่วยเพิ่มโอกาสในการขยายธุรกิจทางด้าน Solar Rooftop ของกลุ่ม CHOW ในประเทศไทยและเวทีสากลแล้ว ยังมีผลบวกในด้านความคล่องตัวในการดำเนินธุรกิจมากยิ่งขึ้นทั้งในด้านเงินทุน ความสามารถในการเข้าถึงแหล่งสินเชื่อใหม่ๆ ที่มีต้นทุนทางการเงินต่ำ และส่งเสริมในด้านของภาพลักษณ์ที่ดีขององค์กรและเป็นที่รู้จักในต่างประเทศมากยิ่งขึ้น ถือเป็นการสร้างพื้นฐานที่สำคัญให้กับธุรกิจพลังงานทดแทนไว้เป็นอย่างดี
“มั่นใจว่าในปี 67 CHOW มีทิศทางเติบโตต่อเนื่องจากปี 66 หลังจากมีปัจจัยสนับสนุนหลายประการทั้งในธุรกิจเหล็ก และธุรกิจพลังงาน โดยในธุรกิจเหล็กปัจจัยหนุนจะมาจากการเริ่มฟื้นตัวของอุตสาหกรรมก่อสร้างในโครงการขนาดใหญ่ของทั้งภาครัฐและเอกชน ซึ่งส่งผลให้ผลิตภัณฑ์เหล็กที่ใช้ในธุรกิจก่อสร้างฟื้นตัวในทิศทางเดียวกัน
ส่วนธุรกิจพลังงานมีทิศทางเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ต่อเนื่องจากปี 66 โดยปัจจัยหลักมาจากภาคเอกชนให้ความสำคัญกับการดูแลสิ่งแวดล้อม และให้ความร่วมมือแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาวะอากาศ โดยตั้งเป้าหมายการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ หรือ net zero โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ประกอบการส่งออก โดยบริษัทฯ มีเป้าหมายจะมีโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาเพิ่มเป็น 250 เมกะวัตต์ในปีนี้ ในขณะที่ธุรกิจพลังงานในต่างประเทศยังเดินหน้าต่อไปทั้งในญี่ปุ่น และออสเตรเลีย” นายปรมัตถ์ กล่าว
นายปรมัตถ์ กล่าวอีกว่า เชื่อว่า ปี 67 จะเป็นปีที่ธุรกิจของ CHOW เติบโตได้อย่างโดดเด่น จากที่มีฐานทุนแข็งแกร่ง สามารถขยายธุรกิจได้อย่างคล่องตัว ทั้งจากกระแสเงินสดของบริษัทฯ เอง และการสนับสนุนด้านสินเชื่อจากธนาคารชั้นนำ นอกจากนี้ บริษัทฯยังมีความพร้อมทั้งด้านบุคลากรที่มีความสามารถ เทคโนโลยีที่ล้ำสมัยและ supply chain ที่แข็งแกร่งทำให้เข้าถึงแหล่งวัตถุดิบและอุปกรณ์ ในราคาที่แข่งขันในตลาดได้อย่างคล่องตัว ซึ่งความพร้อมเหล่านี้จะทำให้ CHOW สามารถขยายธุรกิจได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยสร้างรายได้และกำไรให้เติบโตได้อย่างต่อเนื่อง