BKGI พุ่งต่อ 26% ลุ้นรายได้ปีนี้โต 50% ลุยลงทุน “ห้องแล็บ-เครื่องมือพันธุกรรม”
BKGI พุ่งต่อ 26% ลุ้นรายได้ปี 67 เติบโต 30-50% พร้อมทุ่มงบ 100 ล้านบาท เดินหน้าลงทุน “ห้องแล็บ-เครื่องมือพันธุกรรม” ปักธง 3 ปีรายได้เติบโตเท่าตัว ก้าวสู่เป็นองค์กรชั้นนำด้านวิทยาการสมัยใหม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (21 มี.ค.67) ณ เวลา 10:00 น. ราคาหุ้น บริษัท แบงคอกจีโนมิกส์อินโนเวชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BKGI อยู่ที่ระดับ 5.55 บาท บวก 1.15 บาท หรือ 26.14% สูงสุดที่ระดับ 5.65 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 5.10 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 206.78 พันล้านบาท
สำหรับราคาหุ้น BKGI ปรับตัวขึ้นร้อนแรงต่อเนื่อง หลังจากเข้าจดทะเบียนและซื้อขาย (เทรด) เป็นวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) กลุ่มอุตสาหกรรมบริการ หมวดธุรกิจการแพทย์ โดยเปิดตลาดที่ราคา 2.18 บาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.55 บาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 33.74% จากการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไป (IPO) จำนวน 160 ล้านหุ้น ที่ราคาหุ้นละ 1.63 บาท ก่อนจะมาปิดตลาดที่ราคาสูงสุดของวันที่ 4.40 บาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.77 บาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 169.94% มูลค่าซื้อขายหนาแน่นกว่า 3,227.88 ล้านบาท
ดร.เสาวลักษณ์ ด่านสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BKGI เปิดเผยว่า พอใจกับราคาหุ้นที่เข้าเทรดในวันแรกยืนเหนือราคาไอพีโอ และขอบคุณนักลงทุนที่มองเห็นศักยภาพในการเติบโตของบริษัทและยังเป็นธุรกิจที่อยู่ใน Mega Trend โลก รวมถึงเป็นธุรกิจไบโอเทคโนโลยีรายแรกของตลาดหุ้นไทยด้วย ตอกย้ำความหุ้นแห่งอนาคต (Stock In The Future)
โดยหลังจากการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ BKGI จะมุ่งขยายบริการทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้องอีกมาก และจะพยายามขยายการบริการที่มีอยู่เดิมให้เต็มที่ ได้แก่ 1.การตรวจคัดกรองความผิดปกติทางพันธุกรรมด้านอนามัยการเจริญพันธุ์ 2.การตรวจวิเคราะห์กลุ่มโรคติดเชื้อ 3.การตรวจคัดกรองอื่น ๆ 4.การจำหน่ายผลิตภัณฑ์อื่น ๆ และ 5.งานด้านเทคโนโลยี เป็นต้น เพื่อผลักดันรายได้รวมของปี 2567 ให้เติบโต 30-50% จากปี 2566 ที่มีรายได้รวม 247.34 ล้านบาท
สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ บริษัทมีความประสงค์จะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจหลัก และรองรับแผนการขยายธุรกิจการแพทย์จีโนมิกส์ (Genomics) หรือการวิเคราะห์ลำดับพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิต เพื่อให้เข้าใจกลไกของชีวิตเชิงลึก ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคทางพันธุกรรม รวมทั้งการวางแผนดูแลสุขภาพชีวิต เพื่อป้องกันและรักษาโรคอย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ บริษัทได้วางงบลงทุนไว้ที่ 50-100 ล้านบาท เพื่อลงทุนห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ (แล็บ) เครื่องมือทางการแพทย์ หรือเครื่องตรวจพันธุกรรม และอื่นๆ ส่วนแนวคิดในการขยายบริการไปสู่ระดับหัวเมืองจังหวัดหลักในประเทศไทยนั้น จะเป็นในรูปแบบศูนย์รับเคสตัวอย่างมากกว่า เนื่องจากการลงทุนห้องแล็บด้านพันธุกรรม และเครื่องมือทางการแทพย์ที่เกี่ยวข้องมีราคาสูงมาก