ITEL บวก 5% นิวไฮรอบ 6 เดือน แย้ม Q1 สดใส ปักธงรายได้ปีนี้โต 20%

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (28 มี.ค.67) ราคาหุ้น บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ เทเลคอม จำกัด (มหาชน) หรือ ITEL ณ เวลา 15:02 น. อยู่ที่ระดับ 2.70 บาท บวก 0.14 บาท หรือ 5.47% สูงสุดที่ระดับ 2.78 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 2.54 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 63.59 ล้านบาท ราคาหุ้นนิวไฮรอบ 6 เดือน โดยเทียบตั้งแต่หุ้นยืนที่ระดับ 2.72 บาท เมื่อวันที่ 19 ก.ย.66

โดยก่อนหน้านี้นายณัฐนัย อนันตรัมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  ITEL เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมปีนี้ 3,500 ล้านบาท เติบโต 15-20% แบ่งเป็นเป้ารายได้ของ ITEL ประมาณ 2,800 ล้านบาท เป็นการเติบโตจากงาน Data Service และเน้นในเรื่องการต่อสัญญาต่าง ๆ Data Center คาดไว้ประมาณ 80-100 ล้านบาท โดยจะเน้นลูกค้าเฉพาะราย เช่น กลุ่มลูกค้าธนาคาร และลูกค้าขนาดใหญ่ เป็นต้น, บริษัท บลู โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) ที่เป็นงานติดตั้ง ประมาณ 600 ล้านบาท และบริษัท โกลบอล ลิโธทริปซี่ย์ เซอร์วิสเซส จำกัด หรือ GLS ประมาณ 100 ล้านบาท

สำหรับทิศทางผลประกอบการในไตรมาส 1/2567 เห็นภาพการเติบโตจากหลายส่วนเช่น Data Service ที่มีความแข็งแกร่ง, งานติดตั้งที่มีสัญญาอยู่แล้วและมีการทยอยส่งมอบงานต่อเนื่องที่มีส่วนให้ผลประกอบการมีแนวโน้มเติบโต อย่างไรก็ตามล่าสุดบริษัทมีมูลค่างานในมือ (Backlog) รวม 2,769 ล้านบาท

ทั้งนี้แผนการลงทุนในปีนี้อยู่ระหว่างพิจารณากิจการว่ามีบริษัทใดบ้างที่จะสามารถสร้าง Synergy ร่วมกันได้ ส่วนการลงทุนโครงข่ายไฟเบอร์ออฟติกก็มีการลงทุนเฉลี่ยปีละ 200-300 ล้านบาท ด้าน Data Center ก็มีการทยอยลงทุนในส่วนของการถือหุ้นประมาณ 33% คิดเป็นทั้งปีอยู่ที่ 300-500 ล้านบาท ซึ่งขึ้นอยู่กับการเติบโตของลูกค้า อุตสาหกรรม และแนวโน้มการเติบโตต่าง ๆ รวมถึงก่อนหน้านี้ได้มีการเจรจาเพื่อร่วมทุนกับบริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ และมีการถือหุ้น 12% ในการพัฒนาไปสู่ธุรกิจที่เกี่ยวกับระบบไฟฟ้าคาดว่าจะจัดตั้งบริษัทแล้วเสร็จภายในเดือน มี.ค.นี้

ขณะเดียวกันบริษัทอยู่ระหว่างรองบประมาณปี 2567 จะออกมาส่วนงบประมาณปี 2568 ก็น่าจะมีการเริ่มเตรียมร่างเพื่อเสนอเข้าสภาเพื่อพิจารณาจึงคาดว่าหลังวันที่ 1 ต.ค. 2567 งบก็น่าจะออกมาเช่นกัน ซึ่งในส่วนของการต่อสัญญาโครงการ USO นั้นคาดว่าจะมีทิศทางที่ดีและจะสามารถต่อสัญญาได้ในช่วงกลางปีนี้ อย่างไรก็ตาม บริษัทสามารถบริหารจัดการให้มีการเติบโตได้ เนื่องจากมีสัญญาของงานในมืออยู่แล้ว และคาดว่าการจัดสรรงบประมาณจะเข้าสู่ภาวะปกติในช่วงเดือน เม.ย -พ.ค. ประกอบกับปีนี้มีน่าจะมีการออกงบประมาณ 2 รอบ จึงน่าจะเป็นผลบวกมากกว่า

นอกจากนี้เมื่อวันที่ 23 ก.พ. 2567 ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ซึ่งได้มีมติอนุมัติการจ่ายปันผลในอัตราหุ้นละ 0.0696 บาท จำนวนเงินทั้งสิ้น 96.67 ล้านบาท โดยจะมีการนำเสนอและพิจารณาในที่ประชุมผู้ถือหุ้นอีกครั้งในช่วงเดือน เม.ย. 2567 กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 7 พ.ค. 2567 กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นเพื่อสิทธิในการรับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 8 พ.ค. 2567 และกำหนดจ่ายเงินวันที่ 23 พ.ค. 2567

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) หรือ FSS ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ITEL แนวโน้มธุรกิจและผลการดำเนินงานในปี 2567 ยังเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดย ณ สิ้นปี 2566 ทาง ITEL มีงานในมือ (Backlog) จำนวน  2,769 ล้านบาท แบ่งเป็น Data service 53%,  Datacenter 5% ซึ่งทั้งสองส่วนนี้เป็น Recurring income ส่วนที่เหลือ 38% เป็นงานInstallation ทั้งจาก ITEL และ BLUE (บ.ลูก) และ GLS (บ.ลูกในกลุ่ม Health Tech) 1%ในจํานวน Backlog ดังกล่าว 65% หรือ 1,790 ล้านบาท จะรับรู้ในปี 2567 เทียบกับรายได้ที่คาด 3,393 ล้านบาท เท่ากับประมาณการรายได้ secure ไปแล้ว 53%

ทั้งนี้ประมาณการของฝ่ายวิเคราะห์น้อยกว่าเป้าของบริษัทที่ตั้งไว้ 3.5 พันล้านบาท แม้ว่าบริษัทจะต้องหางานเพิ่มอีกกว่า 1.6 พันล้านบาท เพื่อให้ได้ตามเป้ารายได้แต่เชื่อว่าไม่ยากนัก เพราะในปี 2567 จะมีงบประมาณทั้งของปี 2567 ที่ล่าช้าและปี 2568 ในช่วงไตรมาส 4/2567 ซึ่งมีโครงการจํานวนมากที่บริษัทเข้าไปร่วมประมูลได้

โดยปัจจุบัน GLS (Global Lithotripsy Services) มี Backlog จำนวน 25 ล้านบาท รอรับรู้เป็นรายได้ในปี 2567 ราว 10 ล้านบาท บริษัทตั้งเป้ารายได้ 100 ล้านบาทในปี 2567 ใกล้เคียงกับประมาณการของฝ่ายวิเคราะห์ซึ่งเชื่อว่าเป็นไปได้ เพราะในช่วงปี 2563-2565 ทาง GLS สร้างรายได้ 96-103 ล้านบาท/ปี มีอัตรากําไรสุทธิ 7-9% GLS เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านอุปกรณ์การแพทย์CT scan / MRI scan มีลูกค้าคือโรงพยาบาลรัฐและเอกชน 51 แห่งบริษัทมีแผนขยายฐานตลาดและ leverage กับธุรกิจของ ITEL ทั้งนี้ การที่ ITEL ลงทุนซื้อ GLS 40 ล้านบาท ตํ่ากว่ามูลค่าทางบัญชี อาจมีกําไรทางบัญชีเข้ามาในไตรมาส 1/2567

ทั้งนี้อัตรากําไรขั้นต้นที่สูงถึง 26.8% ในปี 2566  เกิดจากการส่งมอบงานหนึ่งที่มีมาร์จิ้นสูงกว่าปกติ โดยคาดว่าอัตรากําไรขั้นต้นปี 2567 จะปรับลงเป็น 23.3% ซึ่งยังสูงกว่าในอดีตคงประมาณการกําไรปี 2567 ที่ 321 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 19.3% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน และ 360 ล้านบาทในปี 2568 (เพิ่มขึ้น 12.1% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน) คิดเป็นอัตรากําไรสุทธิ 9.4% และ 9.6% ตามลำดับ กลับมาเติบโตสูงอีกครั้งหลังปี 2566 กําไรเพิ่มเพียง 5%เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน

อย่างไรก็ตาม ITEL ผ่านปีที่ยากลําบากไปแล้วในปี 2566 บรรยากาศการลงทุนที่ดีขึ้นในปีนี้จากเม็ดเงินงบประมาณที่กําลังจะออกมา จะช่วยให้บริษัทกลับสู่โหมดการเติบโตอีกครั้ง หุ้นปัจจุบันเทรดที่ PE 10.9 เท่า และ PBV เพียง 0.8 เท่า ยังคงแนะนํา “ซื้อ” คงราคาเป้าหมาย 4.00 บาท อิง PE 17.0 เท่า ใกล้เคียงค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี