JPARK บวก 4% โบรกเชียร์ซื้อเคาะเป้า 7.20 บาท ลุ้น Q1 กำไรโต 82%
JPARK บวก 4% โบรกเชียร์ซื้อเคาะเป้า 7.20 บาท ลุ้นไตรมาส 1/67 กำไรโต 82% อานิสงส์จำนวนช่องจอดรถที่เพิ่มขึ้น พ่วงบุ๊กกำไรจากโครงการติดตั้งระบบที่จอดรถของรฟม.กว่า 6 ล้านบาท และเริ่มรับรู้รายได้โครงการจอดรถสนามบินขอนแก่น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (1 เม.ย.67) ราคาหุ้น บริษัท เจนก้องไกล จำกัด (มหาชน) หรือ JPARK ณ เวลา 14:33 น. อยู่ที่ระดับ 6.05 บาท บวก 0.25 บาท หรือ 4.31% สูงสุดที่ระดับ 6.15 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 5.80 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 26.54 ล้านบาท
บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ปรับเพิ่มคำแนะนำเป็น “ซื้อ” JPARK คงราคาเป้าหมาย 7.20 บาท คาดการณ์เบื้องต้นจะมีกำไรสุทธิไตรมาส 1/2567 อยู่ที่ 19 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 53% จากไตรมาส 4/2566 ที่มีกำไรสุทธิ 13 ล้านบาท และเพิ่มขึ้น 82% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 11 ล้านบาท โดยมาจากฐานที่ตํ่าในปีก่อน และจำนวนช่องจอดรถที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับมีการรับรู้กำไรจากโครงการติดตั้งระบบที่จอดรถของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ที่เลื่อนการส่งมอบงานจากไตรมาส 4/2566 ราว 5-6 ล้านบาท เข้ามาบันทึกในไตรมาส 1/2567 รวมถึงเริ่มรับรู้รายได้โครงการที่จอดรถบริเวณสนามบินขอนแก่น
ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นปรับขึ้นจากธุรกิจบริการให้คำปรึกษาและรับติดตั้งระบบที่จอดรถ (CIPS) มีกำไรขั้นต้น (Margin) ที่สูง และต้นทุนบริการค่อนข้างคงที่ ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานและบริหารปรับลงเพราะไม่มีโบนัสพนักงาน เหมือนไตรมาสก่อน
ส่วนกำไรสุทธิในปี 2567 คาดอยู่ที่ 102 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 63% จากปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 63 ล้านบาท ตามจำนวนช่องจอดที่เพิ่มขึ้นอีกกว่า 7.4 พันช่องจอดในช่วงปี 2567 เป็น 4 หมื่นช่องจอด จากทั้งธุรกิจบริการพื้นที่จอดรถ (PS) ที่คาดเติบโต 45% จากปีก่อน ธุรกิจบริหารที่จอดรถ (PMS) เติบโต 12 % จากปีก่อน และธุรกิจ CIPS จะลดลงจากปีก่อน เนื่องจากโครงการติดตั้งระบบที่จอดรถของ รฟม. มูลค่าเหลืออยู่ 60 ล้านบาท สิ้นสุดโครงการกลางปี 2567
ด้านอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Margin) จะปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 23.9% จาก 22.6% ในปี 2566 จากธุรกิจ PMS และ CIPS ที่มี margin สูง อีกทั้งยังมีรายได้จากการให้เช่าพื้นที่เพื่อการพาณิชย์ด้วย แม้จะมีการเลื่อนรับรู้รายได้จากงาน CIPS มาปี 2567 แต่จะถูกชดเชยจากค่าเสื่อมราคาของโครงการพระนั่งเกล้าที่สูงกว่าคาดไว้ก่อนหน้านี้ ดังนั้นจึงคงประมาณการกำไรปี 2567 ไว้เท่าเดิม ปรับคำแนะนำเป็น “ซื้อ” จาก upside ที่เปิดกว้าง
อย่างไรก็ตาม JPARK ตั้งเป้าจำนวนช่องจอดรถยนต์สิ้นปี 2567 แตะ 4 หมื่นช่องจอด จากสิ้นปี 2566 อยู่ที่ 3.6 หมื่นช่องจอด ใกล้เคียงกับประมาณการเรา และเชื่อว่าจะสามารถทำได้ตามเป้า เพราะปัจจุบัน JPARK ได้รับจ้างบริหารพื้นที่จอดรถของโครงการ One Bangkok เฟสแรก 2 พันช่องจอด ตั้งแต่ปลายเดือน มี.ค. 2567 และผู้บริหารมั่นใจว่าจะมีโอกาสสูงที่จะได้รับงานบริหารที่จอดรถในเฟสถัดไปที่มีช่องจอดรวมกันราว 1 หมื่นช่องจอดของโครงการทั้งหมด เนื่องจากได้รับความไว้วางใจในการบริหารที่จอดรถของกลุ่มผู้ถือหุ้น One Bangkok มาหลายโครงการนานหลายปี
นอกจากนี้ยังมีโครงการบริหารที่จอดรถบริเวณสนามบินขอนแก่นอีก 600 ช่องจอดได้เริ่มเปิดแล้วในไตรมาส 1/2567 อีกทั้งโครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้างยังเป็นไปตามแผน อาทิ อาคารที่จอดรถ รพ.พระนั่งเกล้า มูลค่า 300 ล้านบาท จำนวน 532 ช่องจอด คาดเริ่มให้บริการเดือน ก.ค. นี้ และมีพื้นที่บางส่วนแบ่งเช่าเป็นพื้นที่เชิงพาณิชย์ รวมถึงโครงการพื้นที่จอดรถตลาดบางกอกน้อย คาดเริ่มให้บริการได้ไตรมาส 2/2567 อีก 230 ช่องจอด
ก่อนหน้านี้ นายสันติพล เจนวัฒนไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร JPARK เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าหมายในปี 2567 จะมีบริหารพื้นที่ลานจอดรถ 40,000 ช่องจอด เติบโตมากกว่า 30% จากปี 2566 ที่มีการบริหารพื้นที่ลานจอดรถอยู่ที่ 29,562 ช่องจอด เนื่องจากบริษัทขยายพื้นที่ลานจอดรถเพิ่มอย่างต่อเนื่องในทุกไตรมาส และตั้งเป้าหมายจะบริหารพื้นที่ลานจอดรถเพิ่มขึ้นเป็น 50,000 ช่องจอด ภายในปี 2568
โดยล่าสุดเมื่อช่วงต้นปี 2567 บริษัทชนะประมูลได้รับสัญญาในการให้บริการที่จอดรถ (PS) ให้กับท่าอากาศยานนานาชาติขอนแก่น จำนวน 600 ช่องจอด และชนะการประมูลได้รับงานบริหารพื้นที่อาคารจอดรถ (PMS) ของโครงการ One Bangkok จำนวน 2,000 ช่องจอด ซึ่งทั้ง 2 โครงการดังกล่าวจะเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 1/2567 เป็นต้นไป
ดังนั้นบริษัทมั่นใจว่าแผนการดำเนินงานในปี 2567 จะสามารถผลักดันรายได้ให้เป็นไปตามเป้าหมายจะเติบโต 30-40% จากปี 2566 ที่มีรายได้รวม 573.06 ล้านบาท โดยมาจากการขยายช่องจอดที่เพิ่มขึ้นเป็นหลัก และบริการเกี่ยวข้องอื่น ๆ