BTS เด้ง 3% หลังกทม.จ่ายหนี้ “รถไฟสายสีเขียว” ก้อนแรก 2.3 หมื่นล้าน
BTS เด้ง 3% รับเงินก้อนแรก 2.3 หมื่นล้านบาทจากกทม.ชำระหนี้รถไฟสายสีเขียว ฟาก “ชัชชาติ” เผยการได้รับเงินดังกล่าวจะช่วยเสริมสภาพคล่องให้ BTS ในอนาคต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (3 เม.ย.67) ราคาหุ้น บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS ณ เวลา 15:12 น. อยู่ที่ระดับ 5.75 บาท บวกไป 0.15 บาท หรือเพิ่มไป 2.68% สูงสุดที่ระดับ 5.75 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 5.55 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 393.17 ล้านบาท
สำหรับราคาหุ้นดีดกลับขึ้นมา ตอบรับข่าวแก้ปัญหาหนี้สะสมของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ระหว่างทางกรุงเทพมหานคร (กทม.) โดย บริษัทกรุงเทพธนาคม จำกัด (KT) กับ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC ผู้ให้บริการรถไฟฟ้า BTS ได้รับการชำระเงินก้อนแรกเมื่อวันที่ 2 เมษายน 2567 เพื่อชำระหนี้ค่าติดตั้งระบบรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย สำหรับส่วนต่อขยายที่ 1 อ่อนนุช-แบริ่ง, สะพานตากสิน-บางหว้า และ ส่วนต่อขยายที่ 2 แบริ่ง-สมุทรปราการ, หมอชิต-คูคต จำนวน 23,091 ล้านบาท
ด้าน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า การได้รับเงินดังกล่าวจะช่วยเสริมสภาพคล่องให้ BTS ซึ่งส่งผลต่อการดำเนินงานและการบริการประชาชน สำหรับการชำระหนี้ดังกล่าว ทางกทม. ได้ใช้เงินจากรายจ่ายพิเศษจากเงินสะสมจ่ายขาดของกรุงเทพมหานคร ซึ่งอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 97 และมาตรา 103 แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานครปี 2528
อนึ่ง เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2567 สภากรุงเทพมหานครได้ลงมติ 44 เสียง เพื่ออนุมัติจ่ายเงินภายใน 2 เดือน ซึ่งกรุงเทพมหานครจะนำเงินสะสมจ่ายขาดที่มีอยู่ 40,000-50,000 ล้านบาท มาชำระหนี้ดังกล่าว
ขณะที่การจ้างติดตั้งระบบรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายดังกล่าว ดำเนินการติดตั้งแล้วเสร็จและครบกำหนดชำระให้ BTSC ซึ่งเป็นเงื่อนไขในการเจรจาตาม ม.44 โดยมีขอบเขตงานครอบคลุมระบบจัดเก็บตั๋ว ระบบอาณัติสัญญาณ ระบบสื่อสาร ระบบจ่ายไฟ ระบบศูนย์ควบคุมและสั่งการ ระบบความปลอดภัย
รวมทั้งทาง กทม. ได้ระบุถึงความจำเป็นในการชำระเงินให้ BTSC เนื่องจากมีภาระดอกเบี้ยหากไม่ชำระตามกำหนด และเป็นส่วนสำคัญต่อระบบการเดินรถให้ต่อเนื่อง ส่วนกรุงเทพมหานครควรเป็นเจ้าของสิทธิ์เพื่อมีอำนาจต่อรองการจัดการเดินรถ
นอกจากนี้ปัจจุบันหนี้ในโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่ได้มีการยื่นฟ้องและอยู่ในขั้นตอนศาลปกครองพิจารณา แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ
ส่วนที่ 1 ค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุง (O&M) โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่ศาลปกครองพิพากษาให้กรุงเทพมหานครและบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด (KT) ร่วมกันจ่ายหนี้ให้กับ BTSC จำนวน 11,755.06 ล้านบาท แบ่งเป็น
1.หนี้ค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุงโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายที่ 1 จำนวน 2,348 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย
2.หนี้ค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุงโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายที่ 2 จำนวน 9,406 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ย
ส่วนที่ 2 ค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุง (O&M) ตามที่ BTS ได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลางให้กรุงเทพมหานครและบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด จ่ายหนี้เพิ่มอีกประมาณ 11,068.5 ล้านบาท เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2565
ทั้งนี้ รายงานข่าวจากศาลปกครองสูงสุด ระบุว่า ขณะนี้มีคดีเกี่ยวกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่อยู่ระหว่างศาลปกครองสูงสุดพิจารณา คือ คดีหมายเลขดำที่ อ.2226/2565 ระหว่าง BTSC ซึ่งเป็นผู้ฟ้องคดีระหว่างกรุงเทพมหานคร (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1) และบริษัทกรุงเทพธนาคม จำกัด (ผู้ถูกฟ้องคดี 2) โดยมีข้อมูลการฟ้องร้องในประเด็นไม่ชำระค่าตอบแทนตามสัญญา และ BTS ได้มีหนังสือทวงถามให้ชำระค่าตอบแทนตามสัญญาแล้ว แต่ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองเพิกเฉย เป็นเหตุให้ได้รับความเดือดร้อนเสียหาย