STGT บวก 6% รับโกยรายได้ Q1 ทะลุ 6 พันล้าน ดันกำไรแตะ 146 ลบ.
STGT บวกแรง 6% รับโกยรายได้ถุงมือยางไตรมาส 1/67 ทะลุ 6 พันล้านบาท ดันกำไรแตะ 146.77 ล้านบาท โต 11% จากปีก่อน 132.33 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(13 พ.ค.67)ราคาหุ้นบริษัท ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ STGT ณ เวลา 15:33 น. อยู่ที่ระดับ 9.60 บาท บวก 0.55 บาท หรือ 6.08% ราคาสูงสุด 9.60 บาท ราคาต่ำสุด 9.10 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 76.15 ล้านบาท
บริษัท ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ STGT รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 1 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2567 ดังนี้
โดยกำไรเพิ่มขึ้นเนื่องจากรายได้จากการขายในไตรมาส 1/67 เท่ากับ 6,050.40 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 14.0 เทียบไตรมาสก่อนหน้า และร้อยละ 32.1 เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยในไตรมาส 1/2567 สัดส่วนรายได้ของถุงมือยางธรรมชาติชนิดมีแป้ง (NRPD) อยู่ที่ร้อยละ 37 ถุงมือยางธรรมชาติชนิดไม่มีแป้ง(NRPF) อยู่ที่ร้อยละ 39 และถุงมือยางสังเคราะห์ (NBR) อยู่ที่ร้อยละ 24 ซึ่งมีสัดส่วนที่ใกล้เคียงกับไตรมาสก่อน
ด้านราคาขายเฉลี่ยทั้งไตรมาส 1/67 อยู่ที่ 599 บาทพันชิ้น (USD 16.87) ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 12 เทียบไตรมาสก่อนหน้า หรือ ร้อยละ 0.4 เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นการปรับตัวสูงขึ้นตามต้นทุนวัตถุดิบแม้ว่ายังคงมีความกดดันจากภาวะการแข่งขันสูงในช่วงการปรับสมดุลของอุปทานส่วนเกิน ทั้งนี้ค่าเงินบาทเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐได้อ่อนค่าลงเล็กน้อยหรือร้อยละ 0.02 เทียบไตรมาสก่อนหน้า
โดยปริมาณการขายในไตรมาส 1/67 อยู่ที่ 10,091 ล้านชิ้น ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 14.1 เทียบไตรมาสก่อนหน้า หรือร้อยละ 38.5 เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้นมาจากถุงมือยางทุกประเภท โดยถุงมือยางธรรมชาติที่มีแป้ง (NRPD) เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.1 เทียบไตรมาสก่อนหน้า และร้อยละ 17.5 เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ถุงมือยางธรรมชาติที่ไม่มีแป้ง (NRPF) เพิ่มขึ้นร้อยละ 14.4 เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และร้อยละ 42.3 เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และ ถุงมือยางสังเคราะห์ (NBR) เพิ่มขึ้นร้อยละ 15.7 เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน หรือร้อยละ 92.2 เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน
ทั้งนี้ การเติบโตในปริมาณการขายดังกล่าวเป็นผลจากการความต้องการถุงมือยางทั่วโลกมีการฟื้นตัวในอัตราการเติบโตโดยเฉลี่ยของอุตสาหกรรมที่เป็นภาวะปกติมากยิ่งขึ้น ประกอบกับสต็อคถุงมือยางของลูกค้าและผู้จัดจำหน่ายรายใหญ่ในประเทศต่าง ๆ ได้กลับเข้าสู่ระดับปกติด้วยเช่นกัน อีกทั้งบริษัทฯ ยังมีฐานลูกค้าที่แข็งแกร่งและกระจายตัวได้ดีในทุกตลาดโดยในไตรมาส1/67 บริษัทฯ ได้สร้างการเติบโตในเกือบทุกภูมิภาคทั่วโลกด้วยเช่นกัน